นายสราวุธ ทรงศิวิไล รองอธิบดีกรมทางหลวงฝ่ายบำรุงทาง เปิดเผยว่า กรมทางหลวงสั่งการให้ สำนักงานทางหลวงที่ 13 (กรุงเทพ)และแขวงทางหลวงในสังกัดที่รับผิดชอบพื้นที่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล เฝ้าระวังจุดเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดปัญหาน้ำท่วมขังบนผิวทาง เนื่องจากจะเป็นปัญหาด้านการจราจรแก่ผู้ใช้ถนน เนื่องจาก ขณะนี้ได้เกิดฝนตกหลายพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ทั้งนี้ ได้สั่งการให้กำหนดจุดเฝ้าระวัง จุดที่สุ่มเสี่ยง/อ่อนไหว น้ำท่วมทาง ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ เครื่องสูบน้ำ เครื่องมือเครื่องจักรอื่นและอุปกรณ์อำนวยความสะดวกปลอดภัยให้พร้อมตลอดเวลา และ เตรียมพร้อมแก้ไขปัญหา จนกว่าเหตุการณ์จะคลี่คลาย ติดตาม รายงาน สถานการณ์ เป็นระยะๆทั้งนี้มีเป้าหมายว่าจะไม่ให้มีน้ำท่วมขังบนผิวจราจรและกระทบต่อการจราจร ในสายทางที่กรมทางหลวงรับผิดชอบ
สำหรับพื้นที่จุดเสี่ยงที่คาดว่าจะเกิดน้ำท่วมขังและกรมทางหลวงได้จัดให้มีการเฝ้าระวังเป็นกรณีพิเศษมี 14 ได้แก่ 1.ถนนวิภาวดี จำนวน 3 จุดคือบริเวณหน้าสนามกีฬากองทัพบก บริเวณหน้าวิทยาลัยป้องกันราชอาณาจักร บริเวณหน้าสนามบินดอนเมืองขาออก 2.วงเวียนบางเขน 3. ถนนแจ้งวัฒนะ 4.ถนนรามอินทรา 5.ถนนลำลูกกาช่วงปากทาง 6.ถนนสุวินทวงศ์ ช่วงแยกร่มเกล้า – นิมิตรใหม่ 7.ถนนเกษตร – นวมินทร์ ช่วงสะพานกลับรถใต้สะพานบางบัว 8.ทางคู่ขนานทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง ทล.3901-3902 (จุดกลับรถคลองปากน้ำ) 9.ใต้ด่วนงามวงศ์วาน 10.อุโมงค์ปากเกร็ด 11.แยกเมืองทองถนนแจ้งวัฒนะ 12.จุดเสี่ยงในทางหลวงหมายเลข 3 (ถนนสุขุมวิท) มี จำนวน 3 แห่งได้แก่ 1 บริเวณแยกลาซาล 2. บริเวณแยกแบริ่ง 3.บริเวณแยกปู่เจ้าสมิงพราย 13.ถนนศรีนครินทร์ช่วงแบริ่ง- ลาซาล ขาเข้า กม.13+600-กม.14+00 และ 14.ทางหลวงหมายเลข 1 (ถนนพหลโยธิน) ขาออก ที่กม.29+000 (บริเวณตลาดสี่มุมเมือง) และ ที่กม.37+500 ขาออก (บริเวณหน้า ม.กรุงเทพฯ )
รองอธิบดีกรมทางหลวงฝ่ายบำรุงทาง กล่าวต่อว่า สำหรับจุดเสี่ยงต่างๆดังกล่าวกรมทางหลวงได้ดำเนินการแก้ไขป้องกันแล้วเช่น การขุดลอกเปลี่ยนขนาดท่อระบายน้ำให้ใหญ่ขึ้น มีการติดตั้ง ดูแลรักษาเครื่องสูบน้ำ จัดเจ้าหน้าที่ตลอด 24 ชม.เพื่อดูแลเครื่องสูบน้ำขณะฝนตก รวมถึงเตรียมเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่เร็วไว้ไปสูบน้ำในกรณีฝนตกหนักและระบายน้ำไม่ทัน สำหรับปัญหาส่วนใหญ่ที่เกิดน้ำท่วมขังผิวทางนั้นเกิดจากผิวจราจรต้องรับน้ำที่สูบจากชุมชนสองข้างทางผ่านท่อระบายน้ำของทล.ไปสู่คลองอีกทอดหนึ่ง ทั้งนี้ประชาชนสามารถแจ้งเหตุน้ำท่วมบนผิวทางต่างๆได้ที่ สายด่วนกรมทางหลวง 1586 ทุกวันฟรีตลอด 24 ชั่วโมง