ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ตรวจสถานการณ์น้ำท่วมขังบริเวณถนนรัชดาภิเษก หน้าศาลอาญา เต็มพื้นที่สูงถึง 60 -70 เซนติเมตร (ซม.) เนื่องจากเมื่อคืนที่ผ่านมามีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งคืน
โดยเจ้าหน้าที่ ได้เร่งระบายน้ำตลอดทั้งคืนตั้งแต่ 01.00 น. จนเวลา 10.00 น. น้ำลดลงเหลือประมาณ 15-20 ซม. สามารถเปิดการจราจรรถวิ่งได้แล้ว 2 เลน คาดว่าจะต้องใช้เวลาระบายน้ำออกจากพื้นที่ โดยเร่งสูบน้ำลงคลองย่อยต่อเนื่องไปคลองเปรมประชากร คลองบางซื่อ และคลองลาดพร้าว ใช้เวลาอย่างน้อย 3 ชั่วโมง หรือภายในเที่ยงนี้ หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มเติม
ผู้ว่าฯ กทม.กล่าวว่า ในเวลา 14.00 น. วันนี้ จะประชุมร่วมกับทีมงานและผู้เกี่ยวข้องเพื่อติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ รวมทั้งวางแผนรับมือฝนในรอบต่อไป
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กทม.อยู่ระหว่างการก่อสร้างอุโมงค์ระบายน้ำใต้คลองบางซื่อ ซึ่งจะสามารถเปิดการใช้งานได้ประมาณเดือนเมษายน 2560 จะช่วยบรรเทาปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนเส้นนี้ได้
ด้านกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย รายงานพื้นที่กรุงเทพมหานครเกิดฝนตกหนักต่อเนื่อง เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 20 มิ.ย. จนถึงเช้าวันที่ 21 มิ.ย. 59 ทำให้ประสบปัญหาน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ รวม 36 จุด เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว 29 จุด รอการระบาย 7 จุด ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 15-20 ซม.ส่งผลให้การจราจรติดขัดในหลายเส้นทาง
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันฯ กล่าวว่า รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ห่วงใยประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วมขัง จึงได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ประสานความร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร กองทัพบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษา ประสานการปฏิบัติการเร่งแก้ไขปัญหาน้ำท่วมขังอย่างเต็มกำลัง โดยเฉพาะบริเวณจุดอ่อนน้ำท่วม โดยเน้นการระบายน้ำออกจากผิวการจราจร ด้วยการติดตั้งเครื่องสูบน้ำและเร่งสูบน้ำเข้าอุโมงค์ระบายน้ำ พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ชุดเผชิญสถานการณ์วิกฤต นำรถกู้ภัยขนาดเล็กสนธิกำลังกับชุดเคลื่อนที่เร็วของกองบัญชาการตำรวจนครบาลและกรุงเทพมหานคร ลงพื้นที่ปฏิบัติการช่วยเหลือประชาชนในเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังและการจราจรติดขัด โดยเฉพาะชั่วโมงเร่งด่วนในช่วงเช้าและบ่ายถึงค่ำ เพื่อประสานอำนวยการจราจรและแก้ไขปัญหาการจราจรติดขัด รวมถึงให้บริการซ่อมรถและลากจูงรถที่เครื่องยนต์ขัดข้องกีดขวางเส้นทางจราจร พร้อมบริการรถรับส่งประชาชน
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามพยากรณ์อากาศ คาดว่ากรุงเทพมหานครและปริมณฑลจะมีฝนเพิ่มมากขึ้น กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสานการปฏิบัติกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการเฝ้าระวังสถานการณ์ ให้ความช่วยเหลือ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนแก่ประชาชนที่ประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนตรวจสอบเส้นทาง หลีกเลี่ยงเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังและมีการจราจรติดขัด พร้อมเผื่อเวลาในการเดินทาง เพื่อลดผลกระทบจากปัญหาการจราจร