นางเบญทราย กียปัจจ์ ผู้ช่วยเลขานุการ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และรองโฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ที่มี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานว่า เมื่อเดือน มิ.ย. ที่ผ่านมา กรุงเทพฯ มีฝนตกหนักเกินกว่าค่าเฉลี่ยปกติมาก โดยค่าเฉลี่ยปกติของน้ำฝนในกรุงเทพฯ ประจำเดือน มิ.ย. คือ 186 มม. แต่ค่าเฉลี่ยน้ำฝนเมื่อเดือน มิ.ย.59 อยู่ที่ 437.5 มม. ทำให้เกิดปัญหาน้ำรอการระบายในบางพื้นที่ และคาดการณ์ว่าปีนี้อาจมีฝนตกในกรุงเทพฯ ตลอดทั้งปีสูงกว่าค่าเฉลี่ยปกติ
ดังนั้นกทม. จึงได้เตรียมความพร้อมเพื่อรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวในทุกส่วน ทั้งด้านเจ้าหน้าที่ เครื่องมือและอุปกรณ์ต่างๆ ตลอดจนได้มีการเพิ่มการแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับสภาพอากาศ และสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงฤดูฝน เพื่ออำนวยความสะดวกและบรรเทาความเดือดร้อนแก่พี่น้องประชาชน
นางเบญทราย กล่าวว่า กทม. โดยกองประชาสัมพันธ์ได้จัดทำมาตรการแจ้งเตือนประชาชนเกี่ยวกับสภาพอากาศและสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพมหานครในช่วงฤดูฝน แบ่งการแจ้งเตือนออกเป็น 3 ระดับ คือ ภาวะปกติ ภาวะฉุกเฉิน และภาวะวิกฤติ โดยระดับที่ 1 ภาวะปกติ แจ้งสภาพอากาศทั่วไปประจำวันจากกรมอุตุนิยมวิทยา ข้อมูลจากเรดาร์ กทม. บอกลักษณะของกลุ่มฝน การเคลื่อนตัว พื้นที่ที่จะเกิดฝน และรายงานสถานการณ์ 2 ช่วงเวลา คือ 06.30 น. และ 15.30 น.
ระดับที่ 2 เมื่อมีกลุ่มฝนหรือสถานการณ์ฉุกเฉิน จะแจ้งข้อมูลจากเรดาร์ กทม.ที่พบกลุ่มฝนก่อตัวในพื้นที่กรุงเทพฯ หรือใกล้เคียง ระยะเวลาที่จะเคลื่อนเข้าสู่กรุงเทพฯ ในพื้นที่เขตใดบ้าง ข้อมูลพื้นที่ฝนตก ปริมาณฝน เส้นทางที่ได้รับผลกระทบ จุดน้ำขังรอระบายเพื่อให้ประชาชนหลีกเลี่ยงและวางแผนการเดินทาง ตลอดจนการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ กทม.ในการแก้ไขและการช่วยเหลือประชาชน
ส่วนระดับที่ 3 คือภาวะวิกฤติ จะแจ้งข้อมูลจากเรดาร์ กทม. ว่าพบฝนตกหนักในพื้นที่เขตใด เส้นทางที่มีน้ำขังรอระบาย จุดที่ได้รับผลกระทบ และคาดการณ์เวลาที่น้ำจะแห้งภายในกี่ชั่วโมง กรณีน้ำขังบนถนนสูงและอาจต้องปิดเส้นทางการจราจร จะประสานข้อมูลจาก บ.ก.02 และเตือนประชาชนทราบก่อนการเดินทางผ่านสื่อต่างๆ รวมถึงการหยุดเดินเรือในคลองแสนแสบเมื่อมีเหตุจำเป็น และเมื่อภาวะวิกฤติสิ้นสุดลงจะแจ้งเวลาที่เปิดเดินเรือได้ นอกจากนี้จะแจ้งเหตุฉุกเฉินต่างๆ เช่น มีสิ่งกีดขวางการสัญจร ต้นไม้ล้ม ป้ายล้ม เสาไฟฟ้าล้ม ฯลฯ เพื่อให้ประชาชนรับทราบสถานการณ์ และวางแผนการเดินทางได้
นางเบญจทราย กล่าวว่า สำหรับขั้นตอนการแจ้งเตือน ขณะนี้กองประชาสัมพันธ์ได้จัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมฯ ณ สำนักการระบายน้ำ ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรายงานสถานการณ์ โดยแปรความหมายจากเรดาร์ ภาพถ่ายทางอากาศ และรับรายงานการปฏิบัติงานในพื้นที่ จากนั้นนำเสนอด้วยข้อความสั้น กระชับ ภาษาที่เข้าใจง่ายเพื่อสื่อสารไปยังประชาชน โดยส่งข้อมูลไปยังสื่อมวลชนทุกแขนงผ่านช่องทางสื่อสารต่างๆ ได้แก่ Line Group, Twitter, Facebook, Email, SMS, สถานีวิทยุ, สถานีโทรทัศน์, ข่าวพยากรณ์อากาศช่วงต่างๆ, สื่อหนังสือพิมพ์, หนังสือพิมพ์ออนไลน์, สื่อป้ายจราจรอัจฉริยะ ตลอดจนการจัดแถลงข่าวตามสถานการณ์ เพื่อเผยแพร่ข้อมูลแจ้งเตือนไปยังประชาชนอย่างรวดเร็ว