นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวว่า จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ภาคตะวันออกและภาคใต้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่องและมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และภูเก็ต คลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง
ทั้งนี้ ปภ.ได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่และประสานมิสเตอร์เตือนภัยติดตามพยากรณ์อากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย และแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำ ริมน้ำไหลผ่าน และพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มจากปริมาณฝนที่ตกสะสม รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว เครื่องมืออุปกรณ์ประจำพื้นที่เสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการ เผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยทันทีที่เกิดภัย
ส่วนสถานการณ์น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก และสุราษฎร์ธานี ครอบคลุมพื้นที่รวม 3 อำเภอ 16 ตำบล 95 หมู่บ้าน ส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบ 1,004 ครัวเรือน
โดยที่จังหวัดพิษณุโลกมีน้ำจากลำน้ำแควน้อยและลำน้ำสาขาเอ่อล้นเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนครไทย และอำเภอเมืองพิษณุโลก รวม 10 ตำบล 77 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 525 ครัวเรือน ปัจจุบันมีฝนตกเล็กน้อย ระดับน้ำเริ่มลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรบางพื้นที่
ส่วนที่จังหวัดสุราษฎร์ธานียังมีฝนตกต่อเนื่อง ทำให้น้ำเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่อำเภอพระแสง รวม 6 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 479 ครัวเรือน ปัจจุบันยังคงมีฝนตกเล็กน้อย ระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรบางแห่ง ซึ่ง ปภ.ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ลงพื้นที่สำรวจความเสียหาย และปฏิบัติการแก้ไขปัญหา ตลอดจนให้การช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้นแล้ว