นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า ระยะนี้หลายพื้นที่มีฝนตกหนักต่อเนื่อง ทำให้เกิดสถานการณ์น้ำไหลหลากในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ ชลบุรี และฉะเชิงเทรา โดยจังหวัดชลบุรี ในพื้นที่บ้านอ่างกระพงษ์ ตำบลเกษตรสุวรรณ อำเภอบ่อทอง ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 26 หลังคาเรือน และถนนบายพาสสาย 7 ตอน 3 กม.103 ตำบลบางพระ อำเภอศรีราชา และมีน้ำท่วมขัง ถนนสุขุมวิท ทางเข้าศูนย์พระเทพ และอำเภอเมืองชลบุรี บริเวณแยกชลชาย แยกคีรี แยกบางแสน และแยกอ่างศิลา ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว จังหวัดฉะเชิงเทรา ในพื้นที่ตำบลคลองตะเกรา อำเภอท่าตะเกียบ บ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบ 130 ครัวเรือน ถนน 7 สาย สะพาน 2 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
นอกจากนี้ จากภาวะฝนตกหนักต่อเนื่องทำให้น้ำล้นตลิ่งในพื้นที่ 2 จังหวัด ได้แก่ พิษณุโลก และสุราษฎร์ธานี โดยจังหวัดพิษณุโลก น้ำจากลำน้ำแควน้อยและลำน้ำสาขาเข้าท่วมพื้นที่การเกษตร 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอนครไทย และอำเภอเมืองพิษณุโลก รวม 10 ตำบล 77 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 525 ครัวเรือน ปัจจุบันระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำทางการเกษตรบางพื้นที่ จังหวัดสุราษฎร์ธานี ในพื้นที่อำเภอพระแสง รวม 6 ตำบล 18 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 479 ครัวเรือน ถนน 9 สาย ปัจจุบันระดับน้ำลดลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำ 2 ตำบล 4 หมู่บ้าน
ทั้งนี้ ปภ.ได้ร่วมกับหน่วยทหารและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าสำรวจความเสียหายในพื้นที่ พร้อมระดมสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ วัสดุอุปกรณ์ และเครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยออกปฏิบัติการแก้ไขปัญหาและให้การช่วยเหลือประชาชนในเบื้องต้น
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า บริเวณประเทศไทยตอนบนยังคงมีฝนตก ส่วนภาคตะวันออกและภาคใต้มีฝนตกต่อเนื่องและฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา และภูเก็ต
ทั้งนี้ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประสานจังหวัดในพื้นที่เสี่ยงภัยจัดเจ้าหน้าที่และมิสเตอร์เตือนภัยติดตามสภาพอากาศ เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย และแจ้งเตือนภัยแก่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลาดเชิงเขา ที่ราบต่ำ ริมน้ำไหลผ่าน และพื้นที่เสี่ยงภัยให้ระมัดระวังอันตรายจากน้ำป่าไหลหลาก และดินถล่มจากปริมาณฝนที่ตกสะสม รวมถึงจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุ เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที
นอกจากนี้ ขอให้ประชาชนติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด พร้อมปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด