ตัวแทนประชาชนใน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อขอให้ตรวจสอบการกระทำอันมิชอบ กรณีการก่อสร้างโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง (มอเตอร์เวย์) สายบางปะอิน-นครราชสีมา โดยมีนายรักษ์เกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน เป็นผู้รับมอบหนังสือดังกล่าว
โดยหนังสือร้องเรียนระบุว่า เมื่อมีการตรา พ.ร.ฎ.กำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน เพื่อสร้างทางหลวงหมายเลข 6 สายบางปะอิน-นครราชสีมา พ.ศ.2556 ซึ่งมีอธิบดีกรมทางหลวงเป็นเจ้าหน้าที่เวนคืนตามกฎหมาย เส้นทางดังกล่าวส่วนหนึ่งต้องผ่านท้องที่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ระหว่าง อ.มวกเหล็ก ถึง อ.สีคิ้ว (เดิมเป็นตอนที่ 2 แต่ปัจจุบันเปลี่ยนเป็นตอนที่ 3) โดยแนวเส้นทางของโครงการที่ผ่าน อ.ปากช่อง ในท้องที่ 4 ตำบล ได้แก่ ต.กลางดง, ต.หนองน้ำแดง, ต.หมูสี และ ต.ขนงพระ ก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนอย่างมาก ทั้งที่เป็นเจ้าของที่ดินผู้ถูกเวนคืนและประชาชนทั่วไป เนื่องจากพื้นที่ อ.ปากช่อง นอกจากจะเป็นพื้นที่เกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศแล้ว ยังมีพื้นที่ป่าที่อุดมสมบูรณ์ มีภูมิอากาศดีเป็นอันดับ 7 ของโลก มีแหล่งท่องเที่ยวตามธรรมชาติที่งดงามมากมายที่สำคัญ ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่อันเป็นมรดกโลก สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดนครราชสีมาได้สูงมาก และการคมนาคมสะดวกจึงมีนักลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์สนใจมาลงทุนใน อ.ปากช่อง ทำให้มีการแข่งขันทางเศรษฐกิจสูง ส่งผลให้ราคาที่ดินเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2540 ถึงปัจจุบัน
แต่เมื่อกรมทางหลวงมีโครงการก่อสร้างทางหลวงหมายเลข 6 ซึ่งริเริ่มโครงการมานานนับสิบปีแล้ว และมีประชาชนคัดค้านและเรียกร้องให้ทบทวนโครงการเรื่อยมา แต่กรมทางหลวงก็ยังคงดำเนินโครงการต่อไป โดยมิได้รับฟังข้อเรียกร้องของประชาชน ซึ่งเป็นการสร้างความเดือดร้อนและละเมิดสิทธิและเสรีภาพของประชาชน ก่อให้เกิดความเสียหายและไม่เป็นธรรม
ทั้งนี้ขอให้ผู้ตรวจการแผ่นดินดำเนินการตรวจสอบโครงการ และการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เวนคืน ผู้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่เวนคืน และผู้ที่เกี่ยวข้อง สอบสวนข้อเท็จจริงตามข้อเรียกร้อง และพิจารณาให้ความช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการนี้ตามอำนาจหน้าที่ของผู้ตรวจการแผ่นดิน เพื่อให้ได้รับความเป็นธรรมและบรรเทาทุกข์ร้อนของประชาชนอันเกิดจากโครงการนี้