พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรี โดยก่อนการประชุมหม่อมหลวงปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา ได้นำคณะเข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์ "โครงการ 84 ฝาย ถวายราชินี" เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559
การจัดกิจกรรมดังกล่าวขึ้น เพื่อดูแลป่าโดยการสร้างฝายชะลอน้ำ ซึ่งเปิดให้บุคคลทั่วไปได้เป็นส่วนหนึ่งในการดูแลป่าไม้ และช่วยปลูกจิตสำนึกให้คนรุ่นต่อไปรักษาและเห็นคุณค่าของผืนป่า อีกทั้งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ที่ให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการสร้างฝาย แก้ไขปัญหาน้ำ สร้างความยั่งยืนให้กับธรรมชาติ สร้างความชุ่มชื้นให้ป่าไม้ ทั้งภูเขา และให้สัตว์ป่ามีน้ำกินในช่วงฤดูแล้ง
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีได้ร่วมกิจกรรมทำฝายจำลอง พร้อมสอบถามรายละเอียดโครงการ และได้แนะนำให้พูดคุยกับตัวแทนกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมว่าจะทำฝายอย่างไรให้แข็งแรง เพื่อประโยชน์ในระยะยาว รวมถึงให้ทำในพื้นที่แล้งรุนแรง และที่เป็นเขาหัวโล้นเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำ
สำหรับ "โครงการ 84 ฝาย ถวายราชินี" จะดำเนินการสร้างฝายจำนวน 84 ฝายในพื้นที่ป่าแด่น อำเภอบ้านลาด จังหวัดเพชรบุรี ซึ่งเป็นป่าสวยงาม และเป็นแหล่งต้นน้ำของแม่น้ำเพชรบุรี แต่ระยะหลังได้ถูกทำลายลง และประสบปัญหาแล้งซ้ำซาก ทั้งนี้ เพื่อให้ป่าแด่นกลับมาคงสภาพธรรมชาติและเป็นแหล่งต้นน้ำดังเดิม โดยกิจกรรมดังกล่าวได้เริ่มระหว่างเดือนมิ.ย.-ธ.ค.59
ด้านนายธนศักดิ์ วัฒนฐานะ ผู้ว่าการการประปานครหลวง (กปน.) นำตัวแทนสถาบันการศึกษาและนักเรียน เข้าพบนายกรัฐมนตรี เพื่อประชาสัมพันธ์กิจกรรมส่งเสริมการประหยัดน้ำในสถาบันการศึกษา "Water Ranger ปฎิบัติการพิทักษ์น้ำปี 5" เพื่อรณรงค์ให้เยาวชนเกิดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน พร้อมปลูกจิตสำนึกในการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า เพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้นำไปสู่การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้น้ำอย่างยั่งยืน ภายในโรงเรียน ในครอบครัว และชุมชนต่อไป ซึ่งโครงการดังกล่าวจัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 5 มีนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมแล้วกว่า 6,000 คน
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ทุกวันนี้ต้องมีกระบวนการปลูกจิตสำนึกให้เด็กเยาวชนและประชาชนรู้คุณค่าของทรัพยากรน้ำ เพราะน้ำเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่ใช้แล้วหมดไป ดังนั้นต้องรู้ต้นเหตุและปลายเหตุว่าจะทำอย่างไรเพื่อแก้ไขปัญหา
นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวกับเด็กนักเรียนที่ร่วมกิจกรรมว่า ทุกคนต้องรู้จักตัวเอง และค้นหาตัวเองให้เจอ ต้องรู้ว่าประเทศไทยในอนาคตต้องการอะไร เพื่อพัฒนาตัวเองให้ไปถึงจุดนั้น ทั้งในการเลือกเรียนสาขาและวิชาชีพต่างๆ ให้เหมาะสมกับความต้องการในอนาคต โดยเฉพาะสาขาวิศวกรรมที่ขณะนี้ขาดแคลนกว่า 150,000 คน ทั้งนี้ประเทศไทยมีการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง และเข้าสู่ศตวรรษที่ 21 ดังนั้นต้องเรียนรู้เพื่อที่จะไปยังจุดหมายและกำลังก้าวเข้าสู่ไทยแลนด์ 4.0