นายปิยวัฒน์ ศิวรักษ์ รองเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) เผยสำนักงาน ก.พ.ได้ปรับยุทธศาสตร์เพื่อสนับสนุนยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปีของรัฐบาล พร้อมส่งเสริมให้ส่วนราชการมีความคล่องตัวในการบริหารกำลังคน โดยสำนักงาน ก.พ.จะเข้าไปส่งเสริมเรื่องการวางแผนกำลังคนเพื่อให้ส่วนราชการมั่นใจว่าตำแหน่งที่ว่างลงจะถูกทดแทนด้วยบุคลากรที่มีคุณภาพ เพราะในอีกประมาณ 4-5 ปีข้างหน้าจะมีข้าราชการเกษียณอายุราชการ 4-5 หมื่นคน จึงต้องมาดูว่าจะรับมือกับสถานการณ์นี้อย่างไร ทั้งการสร้างและพัฒนาข้าราชการในปัจจุบันและการสรรหาข้าราชการในอนาคต
ปัจจุบันประเทศไทยมีข้าราชการพลเรือนสามัญประมาณ 3.7 แสนคน กระจายอยู่ตามหน่วยงานงานราชการต่างๆ เช่น หน่วยงานขนาดใหญ่อย่างกระทรวงสาธารณสุขที่มีข้าราชการเกือบ 2 แสนคน ขณะที่บางหน่วยงานเป็นหน่วยงานขนาดเล็กที่มีข้าราชการประมาณ 100-200 คน โดยมีข้าราชการหญิงมากกว่าข้าราชการชายในสัดส่วนประมาณ 65:35
โดยมีข้าราชการกว่า 80% จบการศึกษาในระดับปริญญาตรีหรือสูงกว่า ซึ่งถือว่าโดยภาพรวมข้าราชการมีวุฒิการศึกษาที่สูงขึ้นจากเมื่อ 20 ปีก่อนที่ประมาณ 70% ของข้าราชการทั้งหมดมีการศึกษาต่ำกว่าระดับปริญญาตรี และปัจจุบันข้าราชการไทยอายุเฉลี่ยประมาณ 43 ปี ซึ่งหมายความว่ามีบางหน่วยงานที่อายุเฉลี่ยของข้าราชการสูงหรือต่ำกว่าอายุเฉลี่ย
อย่างไรก็ตาม เรื่องโครงสร้างอายุเป็นเพียงแค่มิติเดียวของความท้าทายต่อระบบราชการเท่านั้น แต่มีความท้าทายอื่นๆ จะรวมถึงการที่ประเทศไทยอยู่ในบริบทของสังคมโลกอย่างแนบแน่นมากขึ้น นอกจากนี้เป็นเรื่องความคาดหวังของในประเทศเองที่คาดหวังบริการที่ดีจากราชการ และที่สำคัญก็คือความคาดหวังว่าระบบราชการและภาครัฐในภาพรวมเป็นระบบที่โปร่งใส มีคุณธรรมและมีการบริหารจัดการที่ดี
อีกทั้งรัฐบาลยังได้กำหนดนโยบายเรื่องการปรับปรุงระบบราชการตามยุทธศาสตร์ชาติระยะ 20 ปี ที่มีเป้าประสงค์หลักได้แก่ ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน ก็ได้กำหนดยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ เป็นยุทธศาสตร์หลักด้านหนึ่งภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติดังกล่าว เพื่อมุ่งให้ราชการมีประสิทธิภาพ เกิดบูรณาการ โปร่งใส ปราศจากทุจริต มีธรรมาภิบาล และทันสมัย ซึ่งการพัฒนายุทธศาสตร์ระยะ 20 ปีของสำนักงาน ก.พ.เป็นการสนับสนุนวิสัยทัศน์และยุทธศาสตร์ชาติ ซึ่งรวมถึงเป้าหมายประเทศไทย 4.0
โดยยุทธศาสตร์ของสำนักงาน ก.พ.นั้นจะเป็นการผลักดันและพัฒนาให้ภาคราชการของประเทศมีคุณธรรมปลอดทุจริต เป็นราชการที่สร้างและส่งเสริมนวัตกรรม และมีประสิทธิภาพ สามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนและเป็นที่เชื่อถือของนานาชาติ โดยการปรับเปลี่ยนระบบและวิธีการบริหารทรัพยากรบุคคล รวมทั้งกฎหมาย ระเบียบ ขั้นตอน หลักเกณฑ์เพื่อให้แต่ละ ส่วนราชการได้มาและรักษาไว้ซึ่งคนดีคนเก่งที่มีจิตสาธารณะอย่างเหมาะสม
ดังนั้นราชการและสำนักงาน ก.พ. ควรจะเน้นการพัฒนาที่มีความต่อเนื่อง ตั้งแต่ระดับแรกเข้าจนถึงระดับสูง และควรเป็นการพัฒนาที่เรียนรู้จากของจริง จากเนื้องานเป็นหลัก ไม่ใช่จากการบรรยาย และต้องพัฒนาให้ข้าราชการมีความสามารถทั้งในการคิดต่อ คิดเติม คิดเสริม หรือแม้กระทั่งคิดต้าน
"เราอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องรับมือกับความท้าทายใหม่ๆที่หลายอย่างเราไม่เคยเจอมาก่อน นั่นแปลว่าไม่มีใครรู้มากกว่ากันสักเท่าไร เราจึงต้องการการทำงานที่เป็นทีม ที่อยู่บนพื้นฐานของความเชื่อใจ เปิดใจ พร้อมที่จะก้าวไปด้วยกัน" นายปิยวัฒน์ กล่าว