พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเห็นชอบในหลักการร่างแก้ไข พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสามารถนำกฎหมายไปแก้ไขปัญหาขยะมูลฝอยที่มีในพื้นที่อย่างเร่งด่วน โดยกำหนดให้สามารถนำสิ่งปฏิกูลมูลฝอยไปใช้หาประโยชน์ได้
สำหรับหลักการสำคัญของกฎหมายฉบับนี้คือ กำหนดเขตพื้นที่ในการจัดเก็บ ขน แยก และกำจัดสิ่งปฏิกูลขยะมูลฝอย โดยมอบอำนาจให้ส่วนราชการท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการ แต่ท้องถิ่นจะทำโดยตัวเอง ทำกับส่วนราชการ หรือจะทำกับภาคเอกชนก็ได้ ภาคเอกชนถ้าจะทำก็ต้องมาขออนุญาตเช่นกัน
"หลายหน่วยงานมองว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้เป็นการแก้ปัญหาแบบเบ็ดเสร็จ เพราะขยะในเมืองไทยมีหลายชนิด ขยะพิษที่มีโลหะหนัก ขยะจากอุตสาหกรรม ขยะติดเชื้อจากโรงพยาบาล แต่ร่างกฎหมายฉบับนี้พูดถึงแค่ขยะมูลฝอยทั่วไปเท่านั้น จึงมองว่ายังไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ครบวงจร" พล.ต.สรรเสริญ กล่าว
พร้อมระบุว่า เมื่อกระทรวงมหาดไทยเสนอมา เพราะเห็นว่ามีปัญหาความเร่งด่วนในการกำจัดขยะที่ผ่านมา ประกอบกับอัตราค่าธรรมเนียมในการกำจัดขยะยังไม่สามารถดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ จึงอนุมัติหลักการให้ร่างกฎหมายฉบับนี้ผ่าน เพื่อนำมาใช้แก้ปัญหาเร่งด่วนก่อน
"สำหรับกฎหมายในอุดมคติที่ต้องแก้ปัญหาให้ได้ครบทุกประเภทของขยะนั้น ได้มอบหมายงานให้แต่ละหน่วย ใครรับผิดชอบขยะประเภทไหน ก็ต้องดำเนินการตั้งแต่ต้นทางถึงปลายทาง ซึ่งได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการจัดทำร่างกฎหมายฉบับอุดมคตินี้ออกมาให้ได้โดยเร็ว" โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าว