นายสุเทพ น้อยไพโรจน์ อธิบดีกรมชลประทาน มั่นใจว่าปริมาณน้ำปีนี้มีแนวโน้มดี เนื่องจากปริมาณฝนในภาพรวมของประเทศมากกว่าเกณฑ์เฉลี่ยในรอบ 30 ปี ประมาณ 1% โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก ส่วนในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ฝั่งตะวันออกน้อยกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 30 ปี แต่อย่างไรก็ตาม ทั่วทุกภาคของประเทศไทยสูงกว่าปี 58 ทั้งสิ้น
เมื่อดูภาพรวมของน้ำ ซึ่งดูเหมือนน้ำจะน้อยกว่าปี 58 แต่เมื่อวิเคราะห์รายภาค ภาคเหนือมากกว่าปี 58 แล้ว 1,400 ล้านลบ.ม. ภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็มากกว่า ภาคกลางก็มากกว่า ภาคตะวันออกก็มากกว่า ยกเว้นภาคตะวันตกคือเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์ น้อยกว่าปี 58 และภาคใต้ ซึ่งยังไม่ถึงเวลาของฤดูฝน โดยเฉพาะภาคใต้ฝั่งตะวันออก
ในพื้นที่ลุ่มเจ้าพระยา ปัจจุบันมีน้ำประมาณ 2,650 ล้านลบ.ม.สูงกว่าปี 56, 57 และ 58 แม้กระทั่งเขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อย และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ต่างก็สูงกว่าปี 56, 57, 58 ทั้งสิ้น
"ดังนั้น อย่าเพิ่งวิตกกังวลมากนัก ผมประเมินล่วงหน้าแล้วว่าเรื่องของภาคการอุปโภคบริโภค ภาครักษาระบบนิเวศน์ในช่วงฤดูแล้งของปี 59/60 ไม่ขาดแคลนแน่นอน เพียงแต่จะเหลือสำหรับการเกษตรเท่าไหร่เท่านั้น ซึ่งก็ต้องติดตามการคาดการณ์ของฝนต่อไปในอนาคต ซึ่งก็ประเมินแล้ว่าน่าจะดีกว่าปี 58 ค่อนข้างมาก"
นอกจากนี้ ทางกรมชลประทานได้เร่งดำเนินการกำจัดผักตบชวาที่ไหลมารวมกันเป็นจำนวนมากบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท จำนวนกว่า 55,000 ตัน ขณะนี้สามารถกำจัดผักตบชวาได้ทั้งหมดแล้วตั้งแต่วานนี้(9 ส.ค. 59) รวมทั้งสิ้นใช้ระยะเวลาเพียง 9 วัน (ระหว่าง 1 – 9 ส.ค. 59) เสร็จก่อนกำหนด 1 วัน
ดังนั้น จึงให้ความมั่นใจได้ในช่วงฤดูน้ำหลากปีนี้ (ส.ค.-ก.ย.) จะไม่มีสิ่งกีดขวางทางน้ำโดยเฉพาะวัชพืชมาสร้างปัญหาอย่างแน่นอน