เมื่อวันที่ 12 ส.ค.59 เวลา 14.00 น. ณ ห้องประชุม 1 ศาลาว่าการกระทรวงมหาดไทย นายกฤษฎา บุญราช ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุมผ่านระบบ Video Conference ไปยัง 76 จังหวัดทั่วประเทศ เพื่อติดตามสถานการณ์และมอบแนวทางป้องกันเหตุการณ์ความไม่สงบที่เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ในขณะนี้ โดยมี ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ ข้าราชการฝ่ายปกครอง ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่เข้าร่วมรับฟังการประชุมฯ
นายกฤษฎากล่าวว่า พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้มีบัญชาให้จัดประชุมชี้แจงมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เพื่อกำชับให้กลไกของกระทรวงมหาดไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ได้บูรณาการความร่วมมือกับภาคส่วนต่างๆ เพื่อดูแลความมั่นคงและปลอดภัยในพื้นที่ ซึ่งจากที่ได้รับรายงานขณะนี้ มีเหตุการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นใน 7 จังหวัด 17 เหตุการณ์ เป็นเหตุระเบิด 13 จุด เพลิงไหม้ 4 จุด มีผู้เสียชีวิต 4 ราย ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยมีความห่วงใยอย่างยิ่งต่อผู้ได้รับผลกระทบ จึงขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดได้ลงไปเยี่ยมเยียนให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บ และครอบครัวของผู้เสียชีวิต ข้าราชการพลเรือน ตำรวจ ทหาร อาสาสมัครต่างๆ ที่ได้ปฏิบัติในพื้นที่ด้วย และขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย อาสาสมัครในพื้นที่ที่เกิดเหตุทุกแห่งที่ได้เข้าให้การช่วยเหลือแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่ได้รับบาดเจ็บได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับแนวทางปฏิบัติของกระทรวงมหาดไทย ขณะนี้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ได้ประกาศให้เหตุการณ์ความไม่สงบในครั้งนี้เป็นเหตุสาธารณภัยแล้ว เพื่อที่จะได้เบิกจ่ายเงินช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้ได้รับผลกระทบ ได้ถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย โดยศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทั้ง 12 เขตจะทำงานบูรณาการทั้งระบบ
ด้านการดูแลความปลอดภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ขอให้เพิ่มมาตรการดูแลความปลอดภัย โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ ย่านชุมชน และตรวจสอบกล้อง CCTV ให้สามารถเชื่อมโยงกับ ฝ่ายตำรวจ และให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพเพื่อเป็นหลักฐานในการดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิด
ในส่วนภูมิภาค ขอเน้นย้ำบทบาทของกระทรวงมหาดไทย ที่จะต้องเป็นกลไกในการปฏิบัติงานในพื้นที่เพื่อแก้ไขปัญหาในภาวะวิกฤติทั้งก่อน ระหว่าง และหลังเกิดเหตุการณ์ โดยให้ทุกจังหวัดตั้งกองอำนวยการร่วมขึ้นมาดูแลเหตุการณ์ และประชุมร่วมกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กำหนดพื้นที่เป้าหมาย วิธีการ เครื่องมือ และผู้รับผิดชอบให้ชัดเจน เน้นมาตรการเฝ้าระวังและรักษาความปลอดภัยสถานที่ราชการ สถานศึกษา สถานที่สำคัญ แหล่งท่องเที่ยว สถานที่คมนาคม ห้างสรรพสินค้า โรงแรม เป็นต้น
พร้อมกำชับให้นายอำเภอ ข้าราชการฝ่ายปกครองอยู่ปฏิบัติในพื้นที่เพื่อเฝ้าระวังเหตุการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย และพร้อมเข้าแก้ไขเหตุการณ์ในพื้นที่โดยทันที และให้ประสานกับหน่วยงานความมั่นคง หน่วยงานราชการ เพื่อกำหนดมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหาความสงบเรียบร้อยขั้นสูงสุด และสั่งการให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จัดเวรยามเฝ้าระวังเหตุผิดปกติในพื้นที่รับผิดชอบตลอด 24 ชั่วโมง และแสวงหาความร่วมมือกับเครือข่ายจิตอาสาเพื่อป้องกันเฝ้าระวัง อาทิ อาสาสมัครมูลนิธิ วินมอเตอร์ไซต์
รวมทั้งให้สร้างการรับรู้ถึงข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องกับประชาชนอย่างถูกต้องและรวดเร็วป้องกันการบิดเบือนข้อมูลข่าวสาร
ปลัดกระทรวงมหาดไทย ย้ำว่าสิ่งสำคัญที่สุดในขณะนี้ คือ การดูแลความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน โดยมีเป้าหมายให้พื้นที่ปลอดภัย คนปลอดภัย ประชาชนอุ่นใจ และควบคุมพื้นที่ไม่ให้เกิดเหตุการณ์ความไม่สงบขึ้นอีก อย่างไรก็ดีต้องขอความร่วมมือจากเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พี่น้องประชาชนให้ช่วยกันเฝ้าระวังเหตุการณ์ในพื้นที่ หากพบเห็นสิ่งผิดปกติขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่โดยทันที และขอให้ประชาชนอย่าตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ ระมัดระวังอย่างหลงเชื่อข่าวลือ ข่าวปล่อย จากผู้ไม่หวังดี