AOT เพิ่มความเข้มงวดมาตรฐานรักษาความปลอดภัยทุกสนามบิน, สุวรรณภูมิจัดชุด K9 ตรวจอาคารผู้โดยสาร

ข่าวทั่วไป Saturday August 13, 2016 08:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) หรือ ทอท. กล่าวว่า จากเหตุการณ์ระเบิดในบางพื้นที่ของประเทศไทยและมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคมและคณะกรรมการ ทอท.ได้แสดงความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นและได้สั่งการให้ ทอท.ซึ่งบริหารท่าอากาศยานหลัก 6 แห่งของประเทศ ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ท่าอากาศยานดอนเมือง ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง เชียงราย และท่าอากาศยานหาดใหญ่ ดำเนินการเพิ่มความเข้มงวดมาตรการรักษาความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันใช้มาตรการรักษาความปลอดภัย ระดับ 3 โดย ทอท.ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดการปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัย เฝ้าติดตามด้านการข่าว และประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง

ตลอดจนเพิ่มวงรอบของทุกส่วนงานรักษาความปลอดภัย ได้แก่ เพิ่มวงรอบของชุดตรวจผสมตระเวนตรวจพื้นที่โดยรอบท่าอากาศยานและในเขตการบิน การตระเวนระงับเหตุ การรักษาการณ์ การจราจร การตรวจค้นสัมภาระติดตัวผู้โดยสารและสัมภาระบรรทุก การตระเวนสุ่มตรวจของหน่วยทำลายวัตถุระเบิด รวมทั้งการออกบัตรอนุญาตบุคคลและยานพาหนะ ยกเลิกการจอดรถหน้าชานชาลาทุกประเภท งดออกบัตรอำนวยความสะดวกทุกประเภท และเฝ้าระวังด้วยกล้องวงจรปิด (CCTV) ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมทั้งตรวจสอบการทำงานของ CCTV และได้ประสานขอความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อจัดชุดตรวจผสมออกสุ่มตรวจในจุดล่อแหลม นอกจากนั้น ยังได้เตรียมกำลังพลไว้รองรับกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินพร้อมปฏิบัติตามแผนฉุกเฉินท่าอากาศยาน อีกทั้งประสานงานด้านการข่าวกับสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตำรวจสันติบาล และตำรวจท้องที่อย่างใกล้ชิด

​นายนิตินัย กล่าวเพิ่มเติมว่า ทอท.ขอความร่วมมือผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่าอากาศยานปฏิบัติตามมาตรการรักษาความปลอดภัยของท่าอากาศยาน เพื่อให้การบริการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ และหากพบเห็นเหตุการณ์ผิดปกติ สิ่งของต้องสงสัย หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย ขอให้แจ้งเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ทั้งนี้ ผู้โดยสารสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ AOT Contact Center โทรศัพท์ 1722

ด้านนายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เปิดเผยว่า ขณะนี้ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และ AOT ได้มีการกำชับให้ทุกส่วนงานด้านความมั่นคงที่ดูแลด้านความปลอดภัยในพื้นที่ ทสภ. ทั้งหน่วยทหาร ตำรวจ อาทิ สถานีตำรวจภูธรท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ตำรวจท่องเที่ยว และ กองพันทหารปืนใหญ่ที่ 21 รักษาพระองค์ และฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทสภ. เพิ่มความเข้มงวดในการดำเนินงานตามมาตรการการรักษาความปลอดภัย ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับ 3 โดยให้คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสาร ผู้ปฏิบัติงาน และผู้มาใช้บริการ ณ ทสภ. เป็นสำคัญ

โดยให้เจ้าหน้าที่ชุดตรวจผสม พร้อมด้วยสุนัขตรวจพัสดุภัณธ์ระเบิดหรือ K 9 เพิ่มความถี่ในการเดินเท้าตรวจตราพื้นที่ต่างๆภายในอาคารผู้โดยสารทั้งในส่วนขาเข้าและขาออก และเพิ่มความเข้มงวดการตรวจบริเวณพื้นที่หน้าชานชาลาอาคารผู้โดยสาร โดยให้คอยสอดส่องดูแลกับการตรวจตราสิ่งของหรือสัมภาระที่หลงลืม รวมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่เข้มงวดในการตรวจสอบเหตุการณ์ต่างๆ ใน ทสภ. ด้วยกล้องวงจรปิด เพื่อคอยสังเกตุยานพาหนะหรือบุคคลต้องสงสัย โดยให้มีการประสานงานด้านการข่าวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสันติบาล ทหาร และตำรวจในพื้นที่อย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ยังได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นปฏิบัติตามมาตราการอย่างเคร่งครัด โดยให้เพิ่มการสุ่มตรวจค้นบุคคล กระเป๋าและสัมภาระของผู้โดยสาร สำหรับพื้นที่ด้านนอกอาคารผู้โดยสาร นอกจากจะได้มีการสนธิกำลังกับทหารและตำรวจในการตั้งจุดสกัดบริเวณถนนทางเข้า - ออก รอบพื้นที่ ทสภ. แล้ว ยังได้มีการเพิ่มวงรอบในการตรวจตราพื้นที่โดยการเดินเท้าและรถสายตรวจทั้งในและนอกเครื่องแบบตระเวนตรวจพื้นที่โดยรอบ ทสภ. และ อาคารสำนักงานต่างๆ ด้วยเช่นกัน สำหรับในส่วนของยานพาหนะได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบยานพาหนะทุกคันที่จะเข้าไปจอดในอาคารจอดรถยนต์ด้วย

นายศิโรตม์ฯ กล่าวต่อว่า เพื่อความปลอดภัย และการให้บริการ ณ ทสภ. เป็นไปด้วยความเรียบร้อยและมีประสิทธิภาพ ขอความร่วมมือผู้โดยสารและผู้ใช้บริการท่าอากาศยานปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยของ ทสภ. หากพบเห็นเหตุการณ์ ผิดปกติ สิ่งของต้องสงสัย หรือบุคคลที่มีพฤติกรรมน่าสงสัย กรุณาแจ้งเจ้าหน้าที่ รักษาความปลอดภัย หรือเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานที่อยู่ในบริเวณนั้นทันที หรือที่ AOT Center โทร. 1722


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ