กพร. คุมเข้มเหมืองแร่ทั่วประเทศ พร้อมสั่งตรวจสอบ 57 เหมืองเสี่ยงยุบตัวช่วงหน้าฝน

ข่าวทั่วไป Tuesday September 6, 2016 15:36 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายชาติ หงส์เทียมจันทร์ อธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ (กพร.) กล่าวว่า กพร. ได้มอบหมายให้สำนักงานอุตสาหกรรมจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ทุกเขต ส่งเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบกำกับดูแลการทำเหมืองแร่ที่มีความเสี่ยงจะเกิดความไม่ปลอดภัยในช่วงหน้าฝนที่มีฝนตกหนักและอาจเกิดอุบัติเหตุจากเหมืองถล่ม ซึ่งพบพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการพังถล่มในช่วงหน้าฝนและควรเฝ้าระวังมีประมาณ 57 เหมืองจากจำนวนเหมืองแร่ 595 เหมืองทั่วประเทศ ในจำนวนนี้ส่วนมากเป็นเหมืองหินแร่อุตสาหกรรมชนิดหินปูนเพื่ออุตสาหกรรมโดยกระจายอยู่ในจังหวัดต่างๆ อาทิ ชลบุรี สระบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช พะเยา ขอนแก่น และสุพรรณบุรี เป็นต้น ซึ่งขณะนี้ กพร. ได้ดำเนินการสั่งให้มีการปรับปรุงแก้ไขให้ถูกต้องตามมาตรการและการแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อมและเงื่อนไขแนบท้ายการอนุญาตแล้วจำนวน 31 ราย

ทั้งนี้ กพร.ได้มีการตรวจสอบอย่างเข้มงวดตามมาตรการกำกับดูแลและการเฝ้าระวังเหมืองถล่มทั่วประเทศในช่วงฤดูฝน ดังนี้ 1.ทำเหมืองตามแผนผังโครงการการทำเหมือง ตามมาตรการและการแก้ไขผลกระทบสิ่งแวดล้อม และเงื่อนไขแนบท้ายการอนุญาตอย่างเคร่งครัด เนื่องจากการออกแบบการทำเหมืองในแผนผังโครงการทำเหมืองนั้นได้พิจารณาเพื่อให้เป็นไปตามหลักวิชาการในการทำเหมืองเพื่อให้เกิดความปลอดภัย รวมทั้งป้องกันและลดผลกระทบที่อาจเกิดจากการพังถล่มของหน้าเหมืองได้ด้วย 2.ทำเหมืองเป็นขั้นบันได ช่วยลดความเสี่ยงจากการพังถล่มของหน้าเหมือง หรือช่วยลดความรุนแรงจากการพังถล่มได้เป็นอย่างมาก

3.ทำเหมืองโดยกำหนดพื้นที่หน้าเหมืองไม่ให้หันหน้าไปในทิศทางที่จะมีแนวชั้นหินวางตัวเอียงเทลงสู่หน้างานด้านล่าง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเลื่อนไถลของชั้นหินลงสู่พื้นที่ด้านล่าง หรือให้มีการเจาะระเบิดในลักษณะที่ไม่เป็นไปในทิศทางเดียวกับรอยเลื่อนหรือรอยแตก ซึ่งจะช่วยป้องกันอันตรายต่อผู้ที่ปฏิบัติงาน 4.ตรวจสอบพื้นที่หน้างานก่อนการปฏิบัติงานทุกครั้ง โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ต้องตรวจสอบว่าบริเวณหน้างานมีร่องรอยของแนวแตกหรือไม่ หากมีแนวรอยแตกเกิดขึ้นต้องกันพื้นที่ห้ามเข้าปฏิบัติงานโดยเด็ดขาด จนกว่าจะมีการดำเนินการแก้ไขเพื่อความปลอดภัย

5.ปิดกั้นพื้นที่เพื่อปรับปรุงแก้ไข เมื่อตรวจสอบพบว่า หน้างานใดมีลักษณะสูงชันมาก หรือมีแนวเลื่อน แนวรอยแตก หรือมีดินแทรก อันจะก่อให้เกิดการพังถล่มของหน้าเหมืองและเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงาน 6.จัดให้มีบ่อดักตะกอน ในพื้นที่ประทานบัตรควรมีบ่อดักตะกอนเพื่อรองรับน้ำจากบริเวณกองดินและคูระบายน้ำรอบพื้นที่โครงการ ซึ่งจะช่วยชะลอการไหลของน้ำออกนอกพื้นที่ได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ