พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนะเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) เปิดเผยว่า สตช.ได้สั่งการให้ตำรวจจราจรทุกภาคส่วนบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาจราจรใน 16 เส้นทางหลักในพื้นที่กรุงเทพฯ ที่มีการสำรวจแล้วว่าเป็นเส้นทางที่การจราจรติดขัดเป็นอย่างมาก พร้อมกำชับให้ตำรวจควบคุมฝูงชนซึ่งยังไม่มีภารกิจปฏิบัติหน้าที่ในช่วงนี้มาช่วยงานด้านการจราจรด้วย โดยจะมีนายตำรวจระดับรองผู้บังคับการเป็นผู้ควบคุมสั่งการ
พร้อมกันนี้ จะมีการพิจารณาเปิดช่องทางพิเศษในเส้นทางหลักที่มีปัญหาการจราจรติดขัดและมีปริมาณรถจำนวนมาก ซึ่งมีการกำหนดแนวทางการแก้ปัญหาเอาไว้ 3 ระยะ คือ ระยะสั้น ซึ่งเป็นระยะเร่งด่วน, ระยะกลาง 6 เดือน - 1 ปี และระยะยาว ตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป รวมทั้งจะประสานข้อมูลผู้จัดอันดับกรุงเทพฯ เป็นเมืองที่รถติด เพื่อขอทราบถึงหลักเกณฑ์ในการจัดทำอันดับจราจรดังกล่าว เพื่อจะนำมาเป็นแนวทางปรับใช้กับแก้ไขปัญหาจราจรให้เกิดความสมบูรณ์มากที่สุด
รองโฆษก สตช. กล่าวด้วยว่า สตช.ยังได้ประสานความร่วมมือกับกรมคุมประพฤติ เพื่อขอตัวผู้ถูกคุมประพฤติมาเป็นผู้ช่วยเจ้าหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกด้านจราจรในพื้นที่นครบาล และในส่วนของตำรวจภูธรภาค 1 ภาค2 และภาค 7 ซึ่งเป็นพื้นที่ติดกับกรุงเทพฯ ที่มีส่วนช่วยในการรับรถเข้าและระบายรถออก โดยจะมอบหมายให้ศึกษาเส้นทางที่จะต้องเพิ่มมาตรการจราจร เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการระบายรถออกจากพื้นที่กรุงเทพฯ ด้วย
"เจ้าหน้าที่จะมีการรณรงค์ปลูกจิตสำนึกให้ประชาชนปฏิบัติตามกฎหมายจราจร และวางมาตรการช่วยเหลือ หากเกิดอุบัติเหตุขึ้นบนท้องถนน รวมถึงการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันด้วย" พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว