พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติอนุมัติหลักการร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การไต่สวนมูลฟ้อง หลักเกณฑ์การยื่นอุทธรณ์ และค่าธรรมเนียม) ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุด และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับความซ้ำซ้อนในประเด็นการกำหนดหลักเกณฑ์การยื่นอุทธรณ์ฎีกาที่กำหนดให้จำเลยที่มิได้ถูกคุมขังต้องแสดงตนในขณะยื่นอุทธรณ์หรือฎีกาตามร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้กับร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอ สนช.ต่อไป
สาระสำคัญของร่าง พ.ร.บ.นี้ คือ เพิ่มบทบัญญัติกำหนดหลักเกณฑ์การตั้งทนายความให้แก่จำเลยและให้สิทธิจำเลยแถลงให้ศาลทราบถึงพยานหลักฐานที่ควรเรียกมาในชั้นไต่สวนมูลฟ้อง, เพิ่มบทบัญญัติการกำหนดกรณีที่ศาลอาจพิจารณาและสืบพยานลับหลังจำเลยได้, แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดให้จำเลยซึ่งศาลพิพากษาลงโทษจำคุกและไม่รอการลงโทษ หรือลงโทษที่หนักกว่า และไม่ได้ถูกคุมขังในการอุทธรณ์จำเลยต้องมาแสดงตนต่อศาลในขณะยื่นอุทธรณ์ และกำหนดให้นำหลักเกณฑ์การยื่นอุทธรณ์ดังกล่าวมาบังคับใช้แก่การยื่นฎีกาด้วย, แก้ไขเพิ่มเติมกำหนดหลักเกณฑ์การนำจำนวนเงินสุทธิของทรัพย์สินที่ต้องยึดหรือายัดมาใช้ค่าธรรมเนียม ค่าปรับ มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกริบ หรือราคาทรัพย์สิน หรือค่าสินไหมทดแทน และเพิ่มบทบัญญัติการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมในการส่งสำเนาคำฟ้อง และหมายเรียกแก่จำเลย