ก.เกษตรฯ เผยใช้คำสั่ง ม.44 แก้ปัญหาประมงผิดกม.เพื่อจัดระเบียบให้เป็นสากลมากขึ้น

ข่าวทั่วไป Wednesday September 14, 2016 15:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ตามคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีคำสั่ง ที่ 53/2559 ลงวันที่ 9 กันยายน พ.ศ. 2559 เรื่อง การแก้ไขปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม เพิ่มเติมครั้งที่ 3 เพื่อแก้ไขปัญหาในการดำเนินการบริหารจัดการกับเรือประมงพาณิชย์ ที่มีการกระทำที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย ถือเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่จะช่วยจัดระเบียบการทำประมงของไทยให้อยู่ในระดับสากลมากขึ้น

ในปีที่ผ่านมา มีเรือประมงที่ผิดกฎหมาย อาทิ เรือที่ไม่มีใบอนุญาตทำการประมง เรือที่ไม่ติด VMS โดยเรือกลุ่มนี้อยู่ในภาวะสุ่มเสี่ยงจะลักลอบออกไปทำประมง เนื่องจากเป็นเรือที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ทำการประมง แต่ปัจจุบันยังไม่มีมาตรการควบคุมเรือประมงพาณิชย์กลุ่มดังกล่าวอย่างชัดเจน

ด้านนางอุมาพร พิมลบุตร รองอธิบดีกรมประมง กล่าวเพิ่มเติมว่า คสช. จึงออกคำสั่งเพื่อกำหนดแนวทางในการควบคุมเรือประมงที่ไม่มีทะเบียนเรือ หรือมีทะเบียนเรือแต่ไม่มีใบอนุญาตทำการประมง จะต้องแจ้งจุดจอดเรือที่ชัดเจนและให้อำนาจแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ของกรมเจ้าท่าในการล๊อคพังงา (เครื่องมือบังคับเรือ) เพื่อมิให้เรือเคลื่อนย้าย เว้นแต่เป็นการฉุกเฉิน จำเป็น และเจ้าของเรือเหล่านั้นจะต้องแจ้งการงดใช้เรือ หรือขอเปลี่ยนประเภทการใช้เรือ มิฉะนั้น จะเป็นเหตุให้นายทะเบียนเรือจำหน่ายทะเบียนเรือออกจากระบบได้ โดยเจ้าของเรือที่ดำเนินการดังกล่าวแล้วไม่จำเป็นต้องติดตั้งระบบติดตามเรือ (VMS) ซึ่งทำให้ลดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ลงไปได้ จากเดิมที่เรือประมงถูกกฎหมายบังคับให้ต้องติดตั้งระบบติดตามเรือ (VMS) ทุกกรณี แม้ไม่ได้ออกทำการประมงก็ตาม แนวทางดังกล่าวนี้จะทำให้มั่นใจได้ว่า จะไม่มีเรือที่ไม่มีทะเบียนเรือหรือไม่ได้รับใบอนุญาตทำการประมงออกมาทำการประมงได้อีกต่อไป

นอกจากนี้ ยังได้กำหนดมาตรการเพื่อดูแลสวัสดิภาพของแรงงานประมง โดยกำหนดห้ามการขนถ่ายลูกเรือกลางทะเล เว้นแต่กรณีเพื่อความปลอดภัย ข้อพิพาทในเรือ และเหตุสุดวิสัยต่าง ๆ ทั้งนี้ เพื่อลดปัญหาความเสี่ยงที่แรงงานประมงจะต้องถูกบังคับให้ทำงานในเรือประมงในทะเลนานเกินไป ซึ่งเป็นมาตรการเสริมจากการควบคุมการทำการประมงในปัจจุบัน ที่เรือประมงแต่ละลำจะทำการประมงได้ไม่เกิน 30 วัน นับแต่วันที่ได้มีการแจ้งออกไปทำการประมงจากศูนย์ควบคุมการแจ้ง เข้า – ออกเรือประมง อีกทั้งยังได้เพิ่มมาตรการในการให้อำนาจแก่กรมประมง และกรมเจ้าท่าในการเปรียบเทียบปรับ สำหรับกรณีผู้กระทำผิดตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันการทำการประมงที่ผิดกฎหมายก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นมาตรการที่ปรากฏอยู่ในกฎหมายฉบับต่าง ๆ อันจะช่วยให้ผู้ต้องหาที่ยินยอมรับผิดตามกฎหมายสามารถยุติคดี โดยการเปรียบเทียบปรับได้ มีผลทำให้การดำเนินคดีอาญายุติลง ช่วยให้คดีต่าง ๆ สามารถเสร็จลุล่วงไปได้โดยเร็ว

สำหรับกลุ่มเรือประมงนอกน่านน้ำที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี ซึ่งไม่สามารถขอรับใบอนุญาตออกไปทำการประมงได้ตามคำสั่งฯ นี้ ก็สามารถใช้วิธีการเปรียบเทียบปรับที่กำหนดไว้นี้เพื่อยุติการดำเนินคดี และสามารถขอรับใบอนุญาตออกไปทำการประมงได้ต่อไปเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ได้กำชับให้กรมประมงเร่งดำเนินการตามคำสั่งดังกล่าวอย่างเข้มงวด และให้รีบปฏิบัติงานตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายไปให้เกิดความรวดเร็ว และเป็นไปตามกฎหมาย ไม่เลือกปฏิบัติ และโปร่งใส ตรวจสอบได้


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ