นายภัทรุตม์ ทรรทรานนท์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เป็นประธานการประชุมผู้บริหารสำนักการระบายน้ำ ผู้ปฏิบัติงาน และผู้เกี่ยวข้อง เพื่อหารือเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ เนื่องจากกรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ในช่วงวันที่ 28-30 ก.ย.59 จะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และในช่วงวันที่ 1-4 ต.ค.59 จะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคกลางตอนล่าง ภาคใต้ตอนบน ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ซึ่งจะทำให้บริเวณภาคกลางยังคงมีฝนตกโดยทั่วไปและมีฝนตกหนักบางแห่ง จึงต้องเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ
โดยขณะนี้ระดับน้ำในคลองสายหลักหลายแห่งอยู่ในภาวะวิกฤต น้ำใกล้ล้นตลิ่ง เนื่องจากช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีฝนตกหนักต่อเนื่อง หากมีฝนตกลงมาเพิ่มจะทำให้น้ำล้นตลิ่งสร้างความเดือดร้อนแก่ประชาชนได้ เช่น คลองเปรมประชากร ช่วงพื้นที่เขตหลักสี่ ดอนเมือง คลองแสนแสบช่วงพื้นที่เขตหนองจอก คลองสามวา มีนบุรี คลองประเวศบุรีรมย์ช่วงพื้นที่เขตลาดกระบัง คลองบางนา ช่วงพื้นที่เขตบางนา ประเวศ และคลองลาดพร้าว ช่วงพื้นที่เขตสายไหม บางเขนและลาดพร้าว
ขณะนี้ กทม.ได้เร่งพร่องน้ำในคลองสายหลักเพื่อเตรียมรับน้ำฝน ซึ่งเป็นการป้องกันน้ำท่วมในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยได้เดินเครื่องสูบน้ำที่มีอยู่เดิมเต็มอัตราสูบพร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำเพิ่มเติมเพื่อช่วยเร่งลดระดับน้ำในคลองต่างๆ โดยในคลองเปรมประชากร เดินเครื่องสูบน้ำบริเวณอุโมงค์ระบายน้ำคลองเปรมฯ ช่วงสะพานสูง บางซื่อ จำนวน 8 เครื่อง อัตราสูบ 34 ลบ.ม./วินาที สถานีสูบน้ำบางซื่อ จำนวน 17 เครื่อง อัตราสูบ 51 ลบ.ม./วินาที สถานีสูบน้ำบางเขนใหม่ จำนวน 10 เครื่อง อัตราสูบ 30 ลบ.ม./วินาที พร้อมทั้งเสริมเรือผลักดันน้ำตามจุดต่างๆ จำนวน 22 ลำ เพื่อช่วยเร่งลดระดับน้ำในคลองเปรมประชากรช่วงพื้นที่หลักสี่ ดอนเมือง ออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และ กทม.ได้ประสานการติดตั้งเครื่องสูบน้ำบริเวณประตูระบายน้ำคลองเปรมประชากรฝั่งใต้ เทศบาลหลักหกเพิ่มเติม จำนวน 2 เครื่อง อัตราสูบ 2 ลบ.ม./วินาที เพื่อเร่งระบายน้ำในคลองเปรมฯ ออกสู่คลองรังสิตประยูรศักดิ์อีกทางหนึ่ง
ส่วนในคลองแสนแสบ เดินเครื่องสูบน้ำอุโมงค์ระบายน้ำพระรามเก้า พร้อมควบคุมการเปิดประตูระบายน้ำบางชัน ประตูระบายน้ำมีนบุรี คลองประเวศบุรีรมย์ เดินเครื่องสูบน้ำในคลองพระโขนง จำนวน 51 เครื่อง อัตราสูบ 173 ลบ.ม./วินาที พร้อมควบคุมประตูระบายน้ำที่ประตูระบายน้ำลาดกระบัง เพื่อเร่งระบายน้ำในคลองประเวศ คลองบางนา เดินหน้าเครื่องสูบน้ำที่สถานีสูบน้ำบางนา จำนวน 7 เครื่อง อัตราสูบ 21 ลบ.ม./วินาที พร้อมเดินเรือผลักดันน้ำตามจุดที่ติดตั้ง จำนวน 8 ลำ เพื่อช่วยเร่งลดระดับน้ำในคลองบางนา และคลองลาดพร้าว เดินเครื่องสูบน้ำอุโมงค์พระราม 9 พร้อมเดินเรือผลักดันน้ำตามจุดที่ติดตั้งจำนวน 17 ลำ เพื่อช่วยเร่งระบายน้ำลงอุโมงค์พระราม 9
ในส่วนของพื้นที่ฝั่งธนบุรี แม้ว่าระดับน้ำจะยังไม่อยู่ในภาวะวิกฤต แต่ กทม.ก็ได้เตรียมความพร้อมโดยลดระดับน้ำในคลองต่างๆ ประกอบด้วย คลองชักพระ คลองมอญ คลองบางกอกใหญ่ คลองพระยาราชมนตรี และคลองดาวคะนอง สั่งการเดินเครื่องสูบน้ำเต็มกำลังสูบ โดยในคลองชักพระ จำนวน 16 เครื่อง กำลังสูบ 48 ลบ.ม./วินาที คลองมอญ จำนวน 8 เครื่อง กำลังสูบ 24 ลบ.ม./วินาที คลองบางกอกใหญ่ จำนวน 19 เครื่อง กำลังสูบ 57 ลบ.ม./วินาที คลองพระยาราชมนตรี จำนวน 10 เครื่อง กำลังสูบ 30 ลบ.ม./วินาที และคลองดาวคะนอง จำนวน 15 เครื่อง กำลังสูบ 45 ลบ.ม./วินาที
สำหรับสถานการณ์น้ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งขณะกรมชลประทานได้ปล่อยน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยา ปริมาณน้ำ 2,000 ลบ.ม./วินาที และเขื่อนพระรามหก ปริมาณน้ำ 600 ลบ.ม./วินาที โดยแม่น้ำเจ้าพระยาในช่วงที่น้ำไหลผ่านกรุงเทพฯ สามารถรองรับน้ำได้ที่ปริมาณ 3,000-3,500 ลบ.ม./วินาที ดังนั้นเขื่อนแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาจึงยังคงรับน้ำได้
อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์น้ำเหนือในแม่น้ำเจ้าพระยายังไม่น่าเป็นห่วงมากนัก แต่ กทม.ก็ได้เตรียมความพร้อมและเฝ้าระวังรับสถานการณ์อย่างเต็มที่ตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งศูนย์ควบคุมระบบป้องกันน้ำท่วมกรุงเทพมหานคร จะเป็นศูนย์ประสานงานและรวบรวมข้อมูลสถานการณ์น้ำในพื้นที่กรุงเทพฯ เพื่อแจ้งเตือนประชาชน