กรมชลฯ เร่งระบายน้ำรองรับปริมาณน้ำฝนช่วง 14-18 ต.ค.

ข่าวทั่วไป Thursday October 13, 2016 15:32 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ และแม่น้ำสะแกกรังลดลงเหลือ 2,172 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และ 88 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีตามลำดับ ระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยามีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมชลประทานจะลดระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนลงให้อยู่ในระดับ +15.50 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) เพื่อให้มีพื้นที่ไว้รองรับสถานการณ์น้ำ ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่าจะมีฝนตกเพิ่มอีกในช่วงวันที่ 14-18 ตุลาคม 2559 นี้ แต่หากมีฝนตกในปริมาณไม่มากนัก กรมชลประทาน จะพิจารณาปรับลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาลงตามความเหมาะสม เพื่อรักษาสมดุลระหว่างปริมาณน้ำเหนือเขื่อนและปริมาณน้ำระบายท้ายเขื่อน

สำหรับสภาพน้ำในเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำในอ่างฯ 892 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 93 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 54 ล้านลูกบาศก์เมตร แนวโน้มน้ำไหลลงอ่างฯลดลงอย่างต่อเนื่อง มีการระบายน้ำออกจากเขื่อนในอัตราวันละ 60 ล้านลูกบาศก์เมตร เพื่อให้มีพื้นที่ว่างรองรับปริมาณน้ำฝน ที่คาดว่าจะยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง ในช่วงวันที่ 14 - 18 ตุลาคม 2559 โดยปริมาณน้ำที่ระบายลงสู่แม่น้ำป่าสักนั้น จะใช้เขื่อนพระราม 6 ในการบริหารจัดการน้ำ ด้วยการควบคุมปริมาณน้ำให้ไหลผ่าน 700 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบกับพื้นที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และกรมชลประทานได้วางแผนเก็บกักน้ำให้เต็มเขื่อนป่าสักฯ ในช่วงสิ้นเดือนตุลาคมนี้

อนึ่ง ปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยา และแม่น้ำป่าสักจะไหลมารวมกันที่อำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานครและสมุทรปราการ ในอัตรา 2,457 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ระดับน้ำยังอยู่ต่ำกว่าตลิ่งประมาณ 1 เมตร จึงไม่ส่งผลกระทบให้เกิดน้ำล้นคันกั้นน้ำ


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ