นายประเสริฐ อัตตะนันทน์ กรรมการและรักษาการกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท รถไฟฟ้า ร.ฟ.ท. จำกัด หรือผู้ให้บริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ เปิดเผยว่า เพื่อเป็นการช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนที่ต้องการจะเดินทางไปถวายน้ำสรงพระบรมศพ และถวายสักการะพระบรมศพพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามิทราธิราช บรมนาถบพิตร ตั้งแต่วันที่ 14 ตุลาคม 2559 เป็นต้นไป
บริษัทฯจึงได้เตรียมแผนอำนวยความสะดวกไว้รองรับการเดินทางของประชาชน โดยเตรียมขบวนรถไฟฟ้าไว้คอยให้บริการจำนวน 5 ขบวน ตลอดระยะเวลาการให้บริการ และในช่วงเวลาเร่งด่วนเช้า (06.00 น. – 10.00 น). และช่วงเวลาเร่งด่วนเย็น (16.00 น. – 20.00 น.) บริษัทฯได้เสริมขบวนรถไฟอีก 2 ขบวน เพื่อคอยให้บริการแก่ประชาชน และในช่วงเวลาที่มีผู้โดยต้องการใช้บริการเป็นจำนวนมาก นอกเหนือจากช่วงเวลาเร่งด่วน ศูนย์ควบคุมการเดินรถไฟฟ้า สามารถนำรถไฟฟ้าเสริม 2 ขบวน ขึ้นมาเตรียมพร้อมให้บริการในระบบรถไฟฟ้าได้ตลอด โดยรถไฟฟ้าเสริม 2 ขบวนนี้ จะจอดรอให้บริการอยู่ที่สถานีมักกะสัน และสถานีสุวรรณภูมิ ทั้งนี้รถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 24.00 น.
นอกจากนั้นบริษัทฯยังได้ตั้งศูนย์ประสานงานเพื่ออำนวยความสะดวก และรองรับการใช้บริการของผู้โดยสารตลอดช่วงเวลาดังกล่าวอีกด้วย ซึ่งผู้โดยสารที่มีความประสงค์เดินทางไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม สามารถโดยสารรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรล ลิงก์ มาลงที่สถานีพญาไท แล้วใช้บริการรถไฟฟ้าบีทีเอสไปยังสถานีอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ และเดินทางด้วยรถโดยสารประจำทางสาย 59 และ 503 หรือเดินทางด้วย Shuttle Bus เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยฯ – สนามหลวง ที่ทางองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพได้จัดเตรียมไว้
โดยในส่วนของด้านความปลอดภัยในระบบรถไฟฟ้า บริษัทฯ ยังคงเน้นย้ำมาตรการรักษาความปลอดภัย ความเข้มงวดด้านมาตรการรักษาความปลอดภัยสูงสุดในการให้บริการแก่ผู้โดยสารในระบบรถไฟฟ้า อันเป็นมาตรการที่ บริษัทฯได้ดำเนินการมาโดยตลอด ซึ่งมีมาตรการต่างๆ ได้แก่
1.เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบสัมภาระผู้โดยสารบริเวณสถานีรถไฟฟ้าทุกสถานี
2.เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคลและวัตถุต้องสงสัยที่เข้าสู่ระบบรถไฟฟ้า
3.เตรียมกำลังพลชุดสุนัขตรวจวัตถุระเบิด (K9)
4.เพิ่มการตรวจใต้ท้องรถยนต์และท้ายรถยนต์ที่จะเข้ามาในลานจอดรถสถานีรถไฟฟ้ามักกะสัน
ด้านกรมการขนส่งทางบก ได้เตรียมดำเนินการในเบื้องต้นดังนี้
1. ได้จัดส่งเจ้าหน้าที่ตรวจการทั้งหมด จำนวน 15 ชุด (75 คน) ณ จุดเชื่อมต่อต่าง ๆ เช่น BTS อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ, สยาม, วงเวียนใหญ่ และบริเวณจุดเชื่อมต่อบริเวณรอบโรงพยาบาลศิริราชและสนามหลวง เพื่อตรวจจับรถสาธารณะป้องกันการเอาเปรียบผู้โดยสาร
2. ได้จัดเตรียมบริเวณกรมการขนส่งทางบกเพื่อเป็นจุดรองรับรถโดยสาร บขส. ที่จะเข้ามาจากต่างจังหวัด พร้อมทั้งได้ประสานสหกรณ์แท็กซี่เพื่ออำนวยความสะดวกจัดคิวรับผู้โดยสารเดินทางต่อไปยังจุดต่าง ๆ
3. ประสานสมาคมรถโดยสารรับจ้างไม่ประจำทาง ให้ทราบถึงจุดจอดต่าง ๆ บริเวณโดยรอบพระบรมมหาราชวัง พร้อมและอาจเข้ามาใช้จุดจอดใน ขบ. เพื่อส่งประชาชนจากต่างจังหวัด
4. ประชาสัมพันธ์ช่องทางต่างๆ เตือน รถโดยสารสาธารณะที่ฉวยโอกาสเอาเปรียบผู้โดยสาร ลงโทษหนักทุกกรณี
5. ประสานให้สำนักงานขนส่งจังหวัดทั่วประเทศ
5.1 อำนวยความสะดวกและความปลอดภัยแก่ผู้ใช้บริการตามสถานีขนส่งผู้โดยสารทั่วประเทศ
5.2 ประสานสถานีขนส่งผู้โดยสารทุกแห่ง ให้ดูแลความปลอดภัยโดยรอบอย่างเข้มข้นตลอด 24 ชั่วโมง
5.3 ประสานรถโดยสารไม่ประจำทางในจังหวัดให้จัดเตรียมรถเสริมในกรณีที่รถโดยสารประจำทางไม่เพียงพอต่อความต้องการ
6. เพิ่มจำนวนพนักงานประจำศูนย์รับเรื่องร้องเรียน 1584 ตลอด 24 ชั่วโมง ให้เพียงพอต่อการบริการสอบถามข้อมูลและรับเรื่องร้องเรียนของประชาชน