กรมชลฯ เริ่มปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนเจ้าพระยาและเขื่อนป่าสักฯ หลังฝนตกน้อยลง

ข่าวทั่วไป Saturday October 15, 2016 17:49 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสัก เมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2559 โดยได้รับรายงานว่า สถานการณ์ฝนในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสัก มีปริมาณฝนน้อยลง ทำให้ปริมาณน้ำท่าในพื้นที่ตอนบนของทั้งสองลุ่มน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงได้มอบหมายให้กรมชลประทาน พิจารณาปรับลดการระบายน้ำลงตามความเหมาะสม เพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาและป่าสักนั้น

สถานการณ์ปัจจุบัน ปริมาณน้ำที่อำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ และแม่น้ำสะแกกรัง ลดลงเหลือ 2,147 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และ 36 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ตามลำดับ ซึ่งปริมาณน้ำมีแนวโน้มลดลง ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ได้เริ่มปรับลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาลงเหลือ 2,218 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(เมื่อวานนี้ 2,297 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที) ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 15 ตุลาคม 2559 จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมือง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และคลองบางบาล ตลาดเสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลดลงตามลำดับ

ในส่วนของเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 871 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 90 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 48 ล้านลูกบาศก์เมตร (สูงสุด 70 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อวันที่ 9 ต.ค.59) ปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ แนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จึงได้ปรับลดการระบายน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ไหลลงเขื่อน เหลือ 56 ล้านลูกบาศก์เมตร (เมื่อวานนี้ระบาย 60.53 ล้านลูกบาศก์เมตร) ตั้งแต่วันที่ 15 ตุลาคม 2559 เวลา 06.00 น. ทำให้ระดับน้ำที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จะลดลงประมาณ 30 เซนติเมตร ภายใน 2 วันนี้

ทั้งนี้ ปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก จะไหลมารวมกันบริเวณอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ปริมาณน้ำเฉลี่ยลดลงเหลือ 2,338 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที (เมื่อวานนี้ 2,393 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที)

"การปรับลดการะบายน้ำในครั้งนี้ จะทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ มีระดับลดลงตามลำดับ หากไม่มีฝนตกหนักลงมาเพิ่มเติมในพื้นที่ตอนบนของลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสัก กรมชลประทาน จะได้พิจารณาปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนทั้งสองแห่งตามความเหมาะสมต่อไป" รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ