นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ว่า ในช่วงวันที่ 15–16 ตุลาคม 2559 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีฝนตกได้ ส่วนบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ ฝั่งตะวันตก จะมีฝนตกหนักบางแห่ง หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 17–21 ตุลาคม 2559 ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีปริมาณฝนลดลง ส่วนบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออก และภาคใต้ จะมีฝนเพิ่มมากขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง สำหรับกรุงเทพมหานครและปริมณฑลยังคงมีฝนตกตลอดช่วงกับมีฝนตกหนักบางแห่งนั้น
สถานการณ์น้ำปัจจุบันปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ และแม่น้ำสะแกกรัง ลดลงอย่างต่อเนื่องเหลือ 2,137 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และ 36 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีตามลำดับ ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาลดลง ซึ่งกรมชลประทานจะรักษาระดับน้ำด้านเหนือเขื่อนเจ้าพระยาให้อยู่ในระดับ+15.70 เมตร (ระดับน้ำทะเลปานกลาง) และลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยา เหลือ 2,106 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที(เมื่อวานนี้ 2,218 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที)ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาที่ อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมือง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และคลองบางบาล ตลาดเสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลดลงตามลำดับ
สำหรับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 867 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 90 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร (สูงสุด 70 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2559) และมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ได้ปรับลดการระบายน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ไหลลงเขื่อนเหลือ 45 ล้านลูกบาศก์เมตร (เมื่อวานนี้ 56 ล้านลูกบาศก์เมตร) พร้อมกับปรับลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนพระราม 6 เหลือ 698 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เริ่มลดลงในระยะต่อไป
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก จะไหลมาบรรจบกันที่บริเวณอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 2,355 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที
สำหรับการปรับลดการะบายน้ำในครั้งนี้ กรมชลประทาน จะทยอยปรับลดให้สอดคล้องกับสถานการณ์ฝนที่ตกลงมา ซึ่งหากปริมาณฝนตกอยู่ในเกณฑ์น้อย จะได้พิจารณาปรับลดการระบายน้ำจากเขื่อนทั้งสองแห่งตามความเหมาะสม จนกว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติ