นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำปัจจุบันปริมาณน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณอำเภอเมือง จังหวัดนครสวรรค์ และแม่น้ำสะแกกรังลดลงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณเหนือเขื่อนเจ้าพระยาอยู่ในระดับ+15.70 เมตร(ระดับน้ำทะเลปานกลาง) ซึ่งเป็นระดับน้ำที่กรมชลประทานจะรักษาไว้ เพื่อให้สามารถส่งน้ำเข้าระบบชลประทานทั้งสองฝั่งของแม่น้ำเจ้าพระยาได้
ส่วนเขื่อนเจ้าพระยามีปริมาณน้ำไหลผ่าน 2,027 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ระดับน้ำด้านท้ายเขื่อนเจ้าพระยา บริเวณอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท อำเภออินทร์บุรี อำเภอเมือง อำเภอพรหมบุรี จังหวัดสิงห์บุรี อำเภอไชโย อำเภอป่าโมก คลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง และคลองบางบาล ตลาดเสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลดลงเช่นกัน
สำหรับเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำ 864 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 90 ของความจุอ่างฯ มีปริมาณน้ำไหลลงอ่างฯ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร (สูงสุด 70 ล้านลูกบาศก์เมตร เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2559) แนวโน้มน้ำไหลลงอ่างฯยังคงลดลงอย่างต่อเนื่อง กรมชลประทาน ได้ปรับลดการระบายน้ำให้สอดคล้องกับปริมาณน้ำที่ไหลลงเขื่อนเหลือ 41 ล้านลูกบาศก์เมตร (เมื่อวานนี้ 56 ล้านลูกบาศก์เมตร) พร้อมกับปรับลดการระบายน้ำผ่านเขื่อนพระราม 6 เหลือ 635 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ทำให้ระดับน้ำที่อำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยาลดลงโดยลำดับ
ทั้งนี้ ปริมาณน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาและแม่น้ำป่าสัก จะไหลมาบรรจบกันที่บริเวณอำเภอบางไทร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเป็นจุดเฝ้าระวังปริมาณน้ำที่ไหลลงสู่จังหวัดปทุมธานี นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และสมุทรปราการ ปัจจุบันมีปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ย 2,330 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ปริมาณน้ำมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง
อนึ่ง สถานการณ์น้ำในภาพรวม ลุ่มน้ำเจ้าพระยาและลุ่มน้ำป่าสักบริเวณตอนบนของลุ่มน้ำมีปริมาณน้ำท่าลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งกรมชลประทาน จะได้พิจารณาเก็บกักน้ำในเขื่อน รวมทั้งในคลองส่งน้ำและคลองระบายน้ำของชลประทาน และพื้นที่แก้มลิงต่างๆ เพื่อสำรองน้ำไว้ใช้ในฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึงตามความเหมาะสมต่อไป