นพ.ปิยะสกล สกลสัตยาทร รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ได้มอบนโยบายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขทั่วประเทศร่วมจัดบริการด้านการแพทย์และสาธารณสุขร่วมกับภาคเครือข่ายทั้งรัฐ เอกชน องค์กรสาธารณะประโยชน์บริการดูแลสุขภาพประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชให้ดีที่สุด ทั้งในส่วนกลางที่บริเวณสนาม พระบรมมหาราชวัง รวมทั้งในส่วนภูมิภาคที่มีการจัดกิจกรรม
สำหรับการเตรียมพร้อมดูแลประชาชนที่เดินทางมาร่วมสักการะพระบรมศพ ในวันที่ 29 ตุลาคม 2559 นี้ ได้มอบหมายให้มีการดำเนินการดังนี้ ด้านบริการทางการแพทย์และสาธารณสุข มอบหมายให้กรมการแพทย์ กรมสุขภาพจิต ร่วมกับศูนย์บริการการแพทย์ฉุกเฉินกรุงเทพมหานคร(ศูนย์เอราวัณ) สำนักการแพทย์ กรุงเทพมหานคร บูรณาการการทำงานเป็น“ศูนย์ปฏิบัติการร่วมการแพทย์และสาธารณสุข" ร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งรัฐ เอกชน องค์กรสาธารณะประโยชน์ วางแผนการดำเนินการเตรียมความพร้อม ประสานงาน ให้บริการทั้งภาวะปกติและกรณีเกิดเหตุวิกฤตทางการแพทย์ ซึ่งขณะนี้มีหน่วยงานจิตอาสาเข้าร่วมจัดบริการมากกว่า 40 หน่วยงาน ให้การดูแลประชาชนที่เดินทางมาสักการะพระบรมศพ รวมทั้งจัดกิจกรรมต่างๆนับแสนคนเป็นไปอย่างเรียบร้อย โดยในระยะต่อไป จะได้หมุนเวียนทีมจากโรงพยาบาลต่างจังหวัดเข้ามาช่วยเสริมการทำงานกับทีมในส่วนกลางต่อไป
ด้านการเฝ้าระวังควบคุมป้องกันโรคและการจัดการสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ได้มอบหมายให้กรมควบคุมโรคและกรมอนามัย เข้าไปดำเนินการจัดระบบสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม ที่บริเวณสนามหลวงรวมทั้ง ที่พักชั่วคราวที่รัฐบาลจัดให้ประชาชนจากต่างจังหวัดเข้าพัก โดยเข้าไปควบคุม ทำลายแหล่ง แมลงสัตว์นำโรค ยุง แมลงวัน ให้ความรู้คำแนะนำเรื่องการป้องกันโรค แจกหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ซึ่งโรคที่พบได้บ่อย เช่น โรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ โรคไข้หวัดใหญ่ ที่ติดต่อได้ง่ายในกลุ่มคนที่อยู่รวมกันแออัด โรคติดต่อระบบทางเดินอาหาร ที่มากับอาหารและน้ำดื่มไม่สะอาด ท้องเสีย อาหารเป็นพิษ เป็นต้น
พร้อมกันนี้ ขอความร่วมมือประชาชนที่จะเดินทางเข้าร่วมสักการะพระบรมศพ หรือทำกิจกรรมเพื่อถวายความอาลัย ให้เตรียมตัวให้พร้อม พักผ่อนให้เพียงพอ เตรียมของใช้ประจำตัว ร่ม หมวก พัด ยาประจำตัว เลือกสวมใส่เสื้อผ้า รองเท้าที่สบายไม่รัดแน่น ผู้เป็นหวัด ไอ จาม หลีกเลี่ยงไปอยู่ในที่แออัด และสวมหน้ากากอนามัยไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่น ล้างมือบ่อยๆ