นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ฝนที่ตกหนักในพื้นที่ตอนบนของลำห้วยแม่น้ำประจันต์ ส่งผลให้มีน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำห้วยแม่ประจันต์เป็นปริมาณมาก ต้องปรับเพิ่มการระบายน้ำออกจากอ่างฯ เป็น 100 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ประกอบกับมีปริมาณน้ำท่าบริเวณท้ายอ่างเก็บน้ำแม่ประจันต์ ไหลลงมาสมทบทำให้ปริมาณน้ำไหลถึงด้านเหนือเขื่อนเพชรเพิ่มสูงขึ้น จำเป็นต้องเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเพชร จาก 197 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที เป็น 250 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งจะส่งผลให้ระดับน้ำ ในแม่น้ำเพชรบุรี บริเวณ อ.ท่ายางสูงขึ้นจากปัจจุบันประมาณ 1 เมตร แต่ไม่ล้นตลิ่ง และตั้งแต่ อ.บ้านลาด ถึงอ.เมืองเพชรบุรี สูงขึ้นจากเดิมประมาณ 50 เซนติเมตร ส่วนบริเวณด้านท้าย อ.เมืองไปจนถึง อ.บ้านแหลม ระดับน้ำจะสูงกว่าตลิ่งและเอ่อเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำ
ทั้งนี้ ได้แจ้งเตือนไปยัง จ.เพชรบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เฝ้าระวังและเพิ่มการป้องกันตลิ่งในบริเวณที่ลุ่มต่ำริมลำห้วยแม่ประจันต์ ได้แก่ พื้นที่ อ.หนองหญ้าปล้อง อ.บ้านลาด อ.แก่งกระจาน และ อ.ท่ายาง รวมไปถึงบริเวณที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเพชรบุรีด้วย
ขอให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำน้ำท่วมถึง รีบยกสิ่งของและทรัพย์สินไว้บนที่สูง พร้อมทั้งขอให้ติดตามสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิดสำหรับการเตรียมการช่วยเหลือพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ได้ดำเนินการติดตั้งเครื่อง สูบน้ำขนาด 8 นิ้ว และ 10 นิ้ว จำนวน 10 เครื่อง จากทั้งหมดที่ได้จัดเตรียมไว้ 30 เครื่อง เพื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขัง พร้อมกับติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำ 2 เครื่อง ในบริเวณแม่น้ำเพชรบุรีก่อนออกทะเล เพื่อเร่งระบายน้ำอย่างต่อเนื่องแล้ว