นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการศูนย์บัญชาการติดตามสถานการณ์ (ศตส.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม ศตส.ได้มีการหารือเตรียมการรองรับประชาชนในวันที่ 12 -14 พ.ย.นี้ เนื่องจากคาดว่าจะมีประชาชนเดินทางเข้ามาที่บริเวณท้องสนามหลวงเป็นจำนวนมาก รวมทั้งการร่วมงานพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และต่อเนื่องไปถึงวันที่ 14 พ.ย. ซึ่งเป็นวันลอยกระทงด้วย
โดยที่ประชุมมีความเป็นห่วงเรื่องของสภาพการจราจร ดังนั้นจะมีการปิดการจราจร รวม 27 เส้นทางตามที่ ศตส.เคยประกาศและใช้ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในเวลา 07.00 น. ถึง 20.00 น. ขณะที่ในช่วงเย็นอาจจะเปิดเส้นทางในบางจุด เพื่อให้การจราจรคล่องตัวมากขึ้น สำหรับในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ที่จะมีงานพระราชทานปริญญาบัตรของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์นั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลได้แนะนำให้บัณฑิตและผู้ที่จะมาร่วมงาน ที่นำรถยนต์ส่วนตัวมาใช้เส้นทางถนนสามเสน บางลำภู และถนนเจ้าฟ้า เพราะจะเป็นเส้นทางที่สะดวกที่สุด
สำหรับจุดจอดรถ ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดไว้ที่บริเวณถนนกาญจนาภิเษก บริเวณสามแยกไฟฉาย และถนนเลียบทางรถไฟสายตลิ่งชัน รวมถึงเตรียมจุดบริการทางเรือไว้ตามท่าต่างๆ ทั้งท่าวังหลัง ท่าวัดระฆัง ท่าสถานีรถไฟ และท่าพรานนก
นอกจากนี้ ได้ประสานไปยัง ขสมก.ให้เพิ่มและขยายเวลารถขนส่งมวลชนที่บริการรับส่งประชาชนภายหลังจากกราบถวายบังคมพระบรมศพ ที่บริเวณประตูทางออกท่าราชวรดิษฐ์ จนถึงเวลา 23.00น. เนื่องจากในช่วงค่ำและดึก ประชาชนเดินทางออกมาค่อนข้างลำบาก
นายสุวพันธุ์ กล่าวอีกว่า ที่ประชุม ศตส.ได้รายงานความคืบหน้าการจัดทำโปรแกรมจองคิวออนไลน์ ซึ่งโปรแกรมดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จในสัปดาห์หน้า ก่อนจะมีการทดสอบและเปิดให้ลงทะเบียนได้จริงในวันที่ 1 ธันวาคม แต่ทั้งนี้คนที่ลงทะเบียนออนไลน์ก็จะต้องมารอคิวและถูกจัดลำดับ เพื่อเข้ากราบถวายบังคมพระบรมศพ ซึ่งจะมีการแบ่งสัดส่วนกับประชาชนที่เดินทางมาเข้าคิวเอง เพื่อให้เกิดความเท่าเทียม
พร้อมกันนี้ ที่ประชุมยังมีการรายงานการดำเนินงานของทุกหน่วยงาน ซึ่งยังเป็นไปตามแผนงานที่ได้วางไว้ ส่วนการปรับย้ายเต็นท์ในโซนทิศเหนือของจุดบริการอาหารและเครื่องดื่มที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ คาดว่าจะแล้วเสร็จและให้บริการเต็มรูปแบบได้ภายในเดือนพ.ย. อย่างไรก็ตาม จะมีการติดตามความคืบหน้าในการประชุม ศตส.อีกครั้งในวันศุกร์ที่ 18 พ.ย. เวลา 10.00 น.