"เบสท์ริน"เสนอทางออกขอกรมศุลฯปล่อยรถเมล์ NGV ระหว่างตรวจสอบ หวั่นถูกยกเลิกสัญญา พร้อมให้ยึดแบงก์การันตีหากผิด

ข่าวทั่วไป Thursday December 8, 2016 17:01 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป จำกัด ผู้ชนะการประมูลประกวดราคารถโดยสารปรับอากาศ NGV จำนวน 489 คันจากองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดแถลงข่าวกรณีกรมศุลกากรไม่ปล่อยรถ NGV ล็อตแรก จำนวน 99 คันว่า ได้เสนอให้กรมศุลกากรพิจารณาปล่อยรถออกมาเพื่อให้ประชาชนได้ใช้บริการตามเป้าหมายของรัฐบาลก่อน หากกรมศุลกากรจะต้องใช้เวลาในการตรวจสอบนาน เนื่องจากบริษัทฯไม่ต้องการให้เกิดการเสียหายถึงขั้นการยกเลิกสัญญาจัดซื้อ หากยังส่งมอบรถไม่ได้หลังวันที่ 29 ธ.ค. 59

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้วางแบงก์การันตีไว้จำนวนกว่า 300 ล้านบาท หากในอนาคตตรวจสอบเสร็จแล้วพบว่า การที่บริษัทยื่นได้สำแดงเอกสารหนังสือรับรองที่ยื่นขอใช้สิทธิลดหย่อนภาษีศุลกากร (From D) ไม่ถูกต้องนั้น สามารถยึดหลักประกันไปได้ แต่หากตรวจสอบแล้วทุกอย่างถูกต้อง ทางกระทรวงการคลังซึ่งค้ำประกันให้ขสมก. ก็จ่ายเงินค่ารถให้บริษัท วงเงิน 3,300 ล้านบาทตามสัญญา โดยจะเร่งทำหนังสือไปที่ขสมก. และกระทรวงคมนาคมเพื่อเสนอทางออกนี้ด้วย

"เรามีแบงก์การันตีมูลค่ากว่า 300 ล้านบาทเป็นหลักประกัน ขณะนี้ พยายามเสนอแนวทางแก้ปัญหาเฉพาะหน้า เพื่อนำรถมาให้บริการประชาชนก่อน พร้อมกันนี้ ขอกรมศุลกากร เร่งรัดการพิสูจน์ เพื่อตรวจปล่อยรถออกจากท่าเรือ...การที่บอกว่าบริษัทฯ จงใจหลีกเลี่ยงภาษี อาจทำให้สังคมเข้าใจผิด ทั้งนี้ บริษัทฯยินดีให้ความร่วมมือกับกรมศุลกากรในการปฎิบัติตามข้อกฎหมาย และพร้อมอำนวยความสะดวกในการตรวจสอบเอกสารทุกประการ"

พร้อมยืนยันว่า หากการตรวจสอบเอกสาร Form D พบว่าเป็นของปลอม บริษัทฯพร้อมจ่ายค่าปรับชำระภาษี เพราะถือเป็นหน้าที่ และต้องฟ้องร้องบริษัท ซุปเปอร์ซาร่า จำกัด ผู้นำเข้า ที่นำเอกสารเท็จมาให้บริษัท เนื่องจากบริษัทฯ เป็นเพียงแค่ผู้นำเข้า มีหน้าที่นำเอกสารที่ผู้ผลิตและผู้ส่งออกจากมาเลเซียนำส่งและยื่นสำแดงต่อเจ้าหน้าที่กรมศุลกากร ไม่ได้เป็นคนจัดทำเอกสารเอง และหน่วยงานที่ออกเอกสาร Form D คือกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศของประเทศมาเลเซีย

นายคนิสสร์ กล่าวว่า สำหรับโรงงานประกอบรถยนต์ นั้นบริษัทฯได้ทำสัญญาสั่งซื้อรถ ที่จะส่งมอบให้ขสมก.ที่โรงงานประเทศมาเลเซีย ไม่ได้ซื้อจาก Sunlong ของจีน เพราะต้องการได้รับยกเว้นภาษีตามข้อตกลงอาเซียน ไม่มีเหตุผลที่จะสั่งซื้อตรงจากจีน ส่วนทางโรงงานมาเลเซียจะใช้วิธีการสั่งซื้ออย่างไรทางบริษัทฯ ไม่สามารถไปก้าวล่วงได้ เพราะเป็นมารยาททางการค้า บริษัทให้ความสำคัญกับสินค้าที่สั่งผลิตว่าจะต้องมีสเปกตรงตามที่ขสมก.กำหนด ซึ่งโรงงานที่มาเลเซียแห่งนี้ ทางสำนักมาตรฐานอุตสาหกรรม(สมอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เคยเดินทางไปตรวจสอบมาตรฐานของโรงงานมาก่อนและได้รับใบรับรองอุตสาหกรรมการผลิตและอนุญาตให้นำผลิตภัณฑ์มาจำหน่ายในประเทศไทย

ซึ่งที่ผ่านมา ได้พยายามประสานผู้ส่งออก และกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมระหว่างประเทศของมาเลเซีย เพื่อให้ชี้แจงว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะตอนนี้ เบสท์รินเป็นผู้เสียหาย รถที่นำออกจากท่าเรือไม่ได้จะมีค่าใช้จ่าย 3-4 แสนบาท/วัน และรถล็อต 2 ทยอยเข้ามาแล้ว และจะทยอยเข้ามาจนครบตามแผนการนำออกจากท่าเรือไม่ได้ทำให้บริษัทมีต้นทุนเพิ่ม


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ