นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยถึงสถานการณ์อุทกภัย วาตภัย และน้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ 14 จังหวัดภาคใต้ และจ.ประจวบคีรีขันธ์ว่า จังหวัดที่ได้รับผลกระทบมี 12 จังหวัด ได้แก่ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ ตรัง พัทลุง สงขลา ยะลา ปัตตานี นราธิวาส ระนอง ประจวบคีรีขันธ์ มีผู้เสียชีวิต 22 ราย สูญหาย 1 ราย บาดเจ็บสาหัส 1 ราย
ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว 7 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ยะลา นราธิวาส ระนอง ปัตตานี ประจวบคีรีขันธ์ และชุมพร ยังคงมีสถานการณ์ใน 5 จังหวัด ได้แก่ สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช ตรัง สงขลา และพัทลุง
ทั้งนี้ กรมป้องกันฯ ร่วมกับหน่วยทหาร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยโดยด่วนแล้ว โดยติดตั้งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำระบายน้ำลงสู่ทะเลและแหล่งน้ำสาธารณะ รวมถึงแจกจ่ายเครื่องอุปโภคบริโภคแก่ประชาชน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น อีกทั้งจัดเจ้าหน้าที่พร้อมรถบรรทุกขนาดใหญ่ เรือท้องแบนอำนวยความสะดวกในการสัญจรและขนย้ายสิ่งของแก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัย ตลอดจนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสำรวจและจัดทำบัญชีผู้ประสบภัย และทรัพย์สินที่เสียหาย เพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกระทรวงการคลังฯ โดยด่วนต่อไป
อย่างไรก็ตาม จากการติดตามคาดการณ์สภาพอากาศในพื้นที่ภาคใต้กับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมประเทศไทยและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง ทำให้ภาคใต้ยังคงมีฝนตก และปริมาณฝนลดลงกว่าช่วงที่ผ่านมา ส่วนคลื่นลมในทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง คลื่นสูง 2 เมตร กรมป้องกันฯ จึงได้ประสานจังหวัดจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ติดตามสภาพอากาศ และพยากรณ์อากาศอย่างใกล้ชิด พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็ว และวัสดุอุปกรณ์ เครื่องจักรกลด้านสาธารณภัยประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที