หม่อมหลวง ปุณฑริก สมิติ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังการตรวจสอบสาเหตุไฟไหม้ห้องเก็บเอกสาร สำนักงานคณะกรรมการค่าจ้าง ในอาคาร 15 ชั้น กระทรวงแรงงาน ว่า เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย(รปภ.) เห็นควันไฟจากบริเวณชั้นลอยในศูนย์อาหาร ซึ่งอยู่ชั้น 1 ใต้อาคาร 15 ชั้น จึงเข้าไปตรวจสอบพบควันไฟพุ่งออกมาจากสำนักงานคณะกรรมการค่าจ้าง ที่ตั้งอยู่บนชั้นลอยเหนือศูนย์อาหาร จึงพยายามเข้าไปดับไฟแต่มีควันไฟมาก จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิง โดยเจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้ทุบกระจกบริเวณด้านหลังตึกแล้วใช้น้ำฉีดดับเปลวไฟ ใช้เวลาประมาณ 10 - 20 นาที จึงสามารถควบคุมไว้ได้ โดยจุดที่ไฟไหม้เป็นมุมวางตู้เอกสารของคณะกรรมการค่าจ้าง เป็นเอกสารเก่าที่เก็บรวบรวมไว้ถูกไฟไหม้เสียหายและควันไฟได้ลงไปบริเวณศูนย์อาหารเป็นเขม่าดำและอาจต้องปิดใช้บริการ 2 - 3 วัน เพื่อทำความสะอาด ส่วนสาเหตุเพลิงไหม้จะมาจากไฟฟ้าลัดวงจรหรือไม่ ยังต้องรอผลการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน อย่างไรก็ตาม บริเวณที่ถูกเพลิงไหม้เดิมทีเป็นห้องออกกำลังกายอยู่ด้านล่างแต่ให้คณะกรรมการค้าจ้างมาใช้พื้นที่เป็นสำนักงานชั่วคราวและพื้นที่จุดนี้มีแต่สัณญาณเตือนภัย ไม่มีสปริงเกอร์ดับไฟ เพราะตึกสร้างมาตั้งแต่ปี 2537 ระบบต่าง ๆ จึงต้องมีการตรวจสอบระบบให้ปลอดภัยขึ้นเหมือนในตัวอาคาร และอาจจะต้องเข้มงวดให้ถอดปลั๊กไฟทุกครั้งเพื่อตัดวงจรไฟฟ้า ส่วนสำนักงานคณะกรรมการค่าจ้าง จะให้ย้ายไปยังตึกประกันสังคมด้านหลังตึก 15 ชั้น
ขณะที่ปลัดกระทรวงแรงงานเข้าตรวจสอบพื้นที่ไฟไหม้ สำนักงานคณะกรรมการค่าจ้าง พบว่าจุดที่ได้รับความเสียหายจากเปลวไฟเป็นมุมเก็บเอกสารซึ่งถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด รวมทั้งเครื่องใช้สำนักงาน คอมพิวเตอร์ กาน้ำร้อน เตาไมโครเวป ที่ตั้งในสำนักงานถูกเปลวเพลิงเสียหาย โดยขณะตรวจสอบจุดต้นเพลิง เจ้าหน้าที่กระทรวงแรงงานได้พบกองเอกสารที่ถูกไฟไหม้และได้หยิบหนังสือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช กับเนติบัณฑิตยสภา ฉบับเฉลิมพระเกียรติในมหามงคลที่ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เล่มสีน้ำเงิน ที่อยู่ในกองเอกสารไฟไหม้ แต่พบว่าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ซึ่งอยู่ปกหน้าไม่ถูกไฟไหม้เหมือนเอกสารหรือหนังสือเล่มอื่น มีเพียงขอบหนังสือด้านบนถูกความร้อนจนเป็นเขม่าสีดำสร้างความแปลกใจให้เจ้าหน้าที่และต่างเชื่อว่า เป็นพระบารมีทำให้ไฟไม่ลุกลามมากกว่านี้