นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ปัจจุบันพื้นที่ส่วนใหญ่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว คงเหลือน้ำท่วมในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำและพื้นที่การเกษตรบางแห่ง ซึ่งกรมชลประทาน ได้จัดส่งเครื่องสูบน้ำ เครื่องผลักดันน้ำ และเครื่องจักร เข้าไปช่วยเร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่น้ำท่วมขังอย่างต่อเนื่อง สรุปได้ ดังนี้
จ.สุราษฎร์ธานี ยังคงมีน้ำท่วมขังบริเวณที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตรเป็นบางแห่งริมแม่น้ำตาปี ในเขต อ.เคียนซา อ.บ้านนาเดิม และ อ.บ้านนาสาร ระดับน้ำในแม่น้ำตาปีมีแนวโน้มลดลง ส่วนในเขต อ.พุนพิน ยังคงมีน้ำท่วมขังที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำตาปี รอการระบายลงสู่ทะเล เนื่องจากได้รับอิทธิพลของน้ำทะเลขึ้น-ลง
จ.นครศรีธรรมราช ระดับน้ำในตัวเมืองนครศรีธรรมราชและพื้นที่โดยรอบๆ ลดลงเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังในพื้นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่การเกษตรในเขต อ.เชียรใหญ่ และอ.หัวไทร ระดับน้ำสูงประมาณ 30 – 50 เซนติเมตร ส่วนคลองระบายน้ำสายต่างๆ ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการระบายน้ำจะใช้ประตูระบายน้ำตามแนวคันกั้นน้ำแบ่งน้ำเค็ม-น้ำจืดระบายน้ำออกจากพื้นที่ แต่ยังมีบริเวณที่ลุ่มต่ำบางแห่งที่มีน้ำท่วมขังไม่สามารถระบายออกได้ จำเป็นต้องใช้เครื่องสูบน้ำในการระบายน้ำ จนถึงขณะนี้ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือแล้ว รวม 64 เครื่อง เครื่องผลักดันน้ำ รวม 44 เครื่อง และรถขุดแบคโฮ รวม 8 คัน หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าสถานการณ์จะเข้าสู่ภาวะปกติภายใน 4- 5 วัน
จ.ตรัง ระดับน้ำในแม่น้ำตรังเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยังคงเหลือน้ำท่วมขังบริเวณพื้นที่ราบลุ่มต่ำริมแม่น้ำ บางแห่ง โครงการชลประทานตรัง ได้ส่งเครื่องสูบน้ำ 9 เครื่อง และรถบรรทุกน้ำอีก 1 คัน เร่งระบายน้ำออกจากพื้นที่ ทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างต่อเนื่อง หากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่ม คาดว่าจะเข้าสู่ภาวะปกติใน 1 - 2 วันนี้
จ.สงขลา ปัจจุบันสถานการณ์น้ำท่วมขังพื้นที่คาบสมุทรสทิงพระ ได้แก่บริเวณอ.ระโนด อ.กระแสสินธุ์ อ.สทิงพระ และอ.สิงหนคร ยังคงมีน้ำท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตชุมชน แนวโน้มระดับน้ำยังทรงตัว แต่ถนนสายหลักและพื้นที่เศรษฐกิจไม่ได้รับผลกระทบ และพื้นที่ส่วนใหญ่เข้าสู่ภาวะปกติแล้ว กรมชลประทาน ได้สนับสนุนเครื่องสูบน้ำเข้าไปช่วยเหลือระบายน้ำ รวม 52 เครื่อง และเครื่องผลักดันน้ำ รวม 10 เครื่อง