พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ประกาศจัดระเบียบและวางมาตราการเข้มงวดการให้บริการรถตู้สาธารณะ และรถโดยสารขนส่งมวลชนอื่นๆ โดยระบุว่าตลอดระยะเวลา 3 เดือนต่อจากนี้ก่อนถึงเทศกาลสงกรานต์ที่จะมีประชาชนเดินทางกลับต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก จะมีมาตรการทั้งการตรวจสอบสภาพรถ ที่จะต้องมีความพร้อมทั้งระบบ รวมถึงทำสมุดประจำรถ บันทึกชื่อ ผู้ขับขี่ เส้นทาง และระยะเวลาการทำงาน รวมถึงจำนวนผู้โดยสารให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อความปลอดภัยในการใช้บริการของประชาชน ซึ่งจากเหตุการณ์รถตู้โดยสารประสบอุบัติเหตุชนกับรถกระบะจนมีผู้เสียชีวิต 25 รายนั้น จะต้องไม่เกิดความสูญเสียในลักษณะเช่นนี้อีก เพราะหนึ่งชีวิตมีค่าและเป็นอนาคตของครอบครัวและประเทศชาติ
พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้ผู้ให้บริการรถโดยสารสาธารณะ เตรียมความพร้อมและดำเนินการทุกอย่างให้ถูกต้อง รวมถึงประชาชนก็ต้องให้ความร่วมมือ และเข้าใจสิ่งที่รัฐบาลพยายามทำอยู่ และยืนยันว่าหากตรวจพบรถโดยสารคันใดไม่พร้อมให้บริการก็จะไม่อนุญาตให้เดินรถโดยเด็ดขาด และรัฐบาลพร้อมจะหารถโดยสารมาให้บริการแทน
"ต่อไปนี้ รถคันไหนไม่พร้อมออก จะไม่ออกจากท่า จะมีอะไรอีกหรือไม่ หรือต้องออกกฏหมายห้ามตาย ห้ามอยู่แล้วพยายามอยู่แล้ว แต่ทุกคนไม่ช่วยกันก็ลำบาก...จากนี้เป็นต้นไปผมจะเข้มงวด 3 เดือน ใครที่วิ่งไม่ได้ ไม่ต้องวิ่ง เดี่ยวผมหารถมาวิ่ง" พลเอกประยุทธ์ กล่าว
ทั้งนี้ ที่ผ่านมารัฐบาลได้พยายามจัดระเบียบรถตู้สาธารณะให้ถูกต้อง เช่นเดียวกันกับรถกระบะก็จะต้องไม่ใช้ผิดประเภท หรือบรรทุกคน พร้อมทั้งให้หาแนวทางการปรับเปลี่ยนจากรถที่ใช้ก๊าซ LPG หรือก๊าซหุงต้ม มาเป็นการติดตั้งก๊าซ NGV แทนโดยเร็ว
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรี ยอมรับว่าการที่ยังมีการนำรถตู้มาทำเป็นรถโดยสารนั้น เนื่องจากการเชื่อมต่อระบบขนส่งมวลชนยังไม่สมบูรณ์ ซึ่งการโดยสารรถตู้แม้จะมีความรวดเร็วในการเดินทางแต่ยังไม่มีความปลอดภัยเท่าที่ควร โดยหลังจากนี้จะมีการปรับปรุงทั้งระบบให้มีความปลอดภัยมากที่สุด