สพฉ.จัดสายด่วน 1669 พร้อมทีมเฝ้าระวังลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบอุทุกภัยภาคใต้

ข่าวทั่วไป Friday January 6, 2017 13:11 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า ได้จัดทีมเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมในหลายจังหวัดภาคใต้อย่างใกล้ชิด โดยได้ตรวจสอบคู่สาย 1669 ให้พร้อมใช้งานได้ตลอดเวลา หากประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงบาดเจ็บหรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน สามารถโทรแจ้งขอความช่วยเหลือทางการแพทย์ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

โดยถนนหลายสายที่ถูกน้ำกัดเซาะจนไม่สามารถสัญจรได้ ทาง สพฉ.ได้ประสานกับภาคีเครือข่ายการแพทย์ฉุกเฉิน อาสาสมัครมูลนิธิต่างๆ นำเรือท้องแบนและเสื้อชูชีพเข้าไปให้บริการในพื้นที่เพื่อนำส่งประชาชนและผู้ป่วยฉุกเฉินให้ได้รับการรักษาในโรงพยาบาลที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม ซึ่งขณะนี้มูลนิธิใจถึงใจได้เข้าพื้นที่โรงพยาบาลหลังสวนจังหวัดชุมพร เพื่อช่วยในการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินแล้ว นอกจากนี้ในส่วนของโรงพยาบาลอื่นๆ ที่ได้รับผลกระทบ สพฉ.เตรียมให้การสนับสนุนหากมีความจำเป็นต้องส่งตัวผู้ป่วยและถนนไม่สามารถใช้งานได้ พร้อมจัดเตรียมการขนส่งทางอากาศยานหรือทางเรือไว้คอยให้บริการในการส่งต่อผู้ป่วยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

รองเลขาธิการ สพฉ.กล่าวว่า ประชาชนที่อยู่ในสถานการณ์น้ำท่วมเฉียบพลันและอยู่ในพื้นที่ที่เกิดพายุต้องคอยฟังประกาศเตือนภัยและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด พร้อมทั้งเตรียมการในเบื้องต้นเพื่อระวังภัย โดยการตรึงประตู หน้าต่าง ให้มั่นคง ถอดปลั๊กเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรขณะฝนตกฟ้าคะนอง และขณะฝนตกฟ้าคะนอง ห้ามอยู่ใต้ต้นไม้ เสาไฟ และห้ามโทรศัพท์เด็ดขาด หากรู้สึกว่าบ้านกำลังจะพังให้ ห่อตัวเองด้วยผ้าห่ม หลบใต้โต๊ะ ใต้เตียง หรือที่แข็งแรงมั่นคง

ส่วนการป้องกันเหตุน้ำป่าน้ำท่วมฉับพลันประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยต้องรีบอพยพขึ้นที่สูง ควรสวมเสื้อชูชีพ โดยหลีกเลี่ยงการเดินผ่านแนวธารน้ำ ช่องระบายน้ำ ห้ามเดินฝ่ากระแสน้ำเด็ดขาด ทั้งนี้เพื่อความปลอดภัยในการเดินควรใช้ไม้ปักดินคลำทาง เพื่อสังเกตว่าดินตื้นลึกแค่ไหน และห้ามขับรถฝ่ากระแสน้ำท่วม แต่หากเกิดน้ำท่วมระหว่างอยู่ในรถ และน้ำขึ้นสูงรอบๆ รถ ให้รีบออกจากรถโดยเร็ว

สำหรับพื้นที่ที่คาดว่าจะมีน้ำท่วมขังเป็นเวลานานควรจัดเตรียมกระเป๋ายังชีพฉุกเฉิน และจัดทำรายการสิ่งของจำเป็นที่ต้องเตรียม โดยแบ่งเป็นหมวดหมู่ดังนี้ 1.สิ่งของยามฉุกเฉินคือ น้ำดื่ม มีดอเนกประสงค์ กระดาษชำระ วิทยุใส่ถ่าน เชือก เทปกาวสะท้อนแสง ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว ยาประจำตัว เสื้อผ้า ไฟฉาย นกหวีด เทียนไข ไฟแช็ค ไม้ขีดไฟ ถุงพลาสติก ปากกาเมจิค และชุดปฐมพยาบาล ประกอบด้วย หน้ากาก ยาฆ่าเชื้อ สำลี ผ้าก็อซ แหนบ ผ้าพันแผล พลาสเตอร์ยา

2.สิ่งของมีค่า คือ เอกสารหลักฐาน และสิ่งสำคัญในชีวิต อาทิ บัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ บัตรประกันสุขภาพ ทะเบียนบ้าน สมุดธนาคาร หนังสือเดินทาง เงินสด กุญแจบ้าน กุญแจรถ โทรศัพท์มือถือ ที่ชาร์ตโทรศัพท์มือถือ แว่นสายตา สมุดบันทึก

3.สิ่งของจำเป็น และของใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อการดำรงชีวิต อาทิ อาหารแห้งพร้อมรับประทาน ชุดชั้นใน หนังสือพิมพ์ (สามารถนำมาใช้เป็นผ้าห่มเพื่อกันหนาว นำมาพับเป็นจาน หรือใช้เป็นเชื้อเพลิง หรือนำมาม้วนทำเป็นเฝือกฉุกเฉินได้) สบู่ แปรงสีฟัน ยาสีฟัน จาน ชาม ช้อน ส้อม ขันโลหะ เข็มกลัด กระจกพกพา ถ่านสำรอง อุปกรณ์กันฝน เข็มกลัด นอกจากนี้สำหรับผู้หญิงควรมีผ้าอนามัย และสตรีมีครรภ์ควรพกสมุดฝากครรภ์และผ้าขาวบางติดตัวไว้ตลอดเวลา เพื่อใช้ในกรณีคลอดฉุกเฉิน อีกทั้งควรจัดเตรียมผ้าอ้อมสำหรับผู้ใหญ่ ส่วนผู้พิการควรเตรียมบัตรประจำตัวคนพิการและสมุดบันทึกการดูแลรักษาไว้ติดตัวตลอดเวลาด้วย และสำหรับเด็กทารกควรเตรียมนมผง ขวดนม อาหารเสริม ผ้าอ้อม สมุดบันทึกการฉีดวัคซีน และของเล่น

"ผู้ป่วยที่เป็นโรคเรื้อรังและต้องรับประทานยาเป็นประจำ แต่ไม่สามารถเดินทางไปรับยาที่โรงพยาบาลได้ หรือยาถูกน้ำท่วมหมดนั้น ไม่ควรขาดยาเพราะจะเกิดถาวะแทรกซ้อนต่างๆ ให้ติดต่อประสานไปยังโรงพยาบาลที่รักษาอยู่ หรือติดต่อที่สายด่วนเบอร์ 1669 ซึ่งสามารถให้ความช่วยเหลือได้" นพ.ภูมินทร์ กล่าว

เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ