นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กล่าวถึง สถานการณ์อุทกภัยในพื้นที่ภาคใต้ว่า ขณะนี้ในพื้นที่ภาคใต้ และจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับผลกระทบรวม 12 จังหวัด รวม 119 อำเภอ 722 ตำบล 5,613 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 531,911 ครัวเรือน 1,621,414 คน ผู้เสียชีวิต 41 ราย สถานที่ราชการเสียหาย 20 แห่ง ถนน 1,172 จุด คอสะพาน 191 แห่ง ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว6จังหวัด ได้แก่ ยะลา ระนอง นราธิวาส ปัตตานี กระบี่ และชุมพร
ยังคงมีสถานการณ์ใน 6 จังหวัด ได้แก่ พัทลุง สงขลา ตรัง สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และประจวบคีรีขันธ์ รวม 34 อำเภอ 194 ตำบล 1,398 หมู่บ้าน โดยจ.พัทลุง มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองพัทลุง อำเภอควนขนุน อำเภอปากพะยูน อำเภอเขาชัยสน และอำเภอบางแก้ว รวม 12 ตำบล 37 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 27,274 ครัวเรือน 64,018 คน อพยพ 233 ครัวเรือน 663 คน ผู้เสียชีวิต 5 ราย จ.สงขลา มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 5 อำเภอ ได้แก่ อำเภอควนเนียง อำเภอกระแสสินธุ์ อำเภอสิงหนคร อำเภอสทิงพระ และอำเภอระโนด รวม 17 ตำบล 86 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,880 ครัวเรือน 26,715 คน อพยพ 19 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 3 ราย จ.ตรัง มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 2 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตรัง และอำเภอกันตัง รวม 19 ตำบล 119 หมู่บ้าน 3 เทศบาล 18 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 5,242 ครัวเรือน 18,369 คน อพยพ 776 ครัวเรือน ผู้เสียชีวิต 2 ราย
ขณะที่จ.สุราษฎร์ธานี มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 6 อำเภอ ได้แก่ อำเภอพระแสง อำเภอเวียงสระ อำเภอเคียนซา อำเภอบ้านนาสารอำเภอบ้านนาเดิม และอำเภอพุนพิน รวม 37 ตำบล 202 หมู่บ้าน ประชาชนได้รับผลกระทบ 8,645 ครัวเรือน 24,905 คน ประชาชนอพยพ 190 ครัวเรือน 614 คน ผู้เสียชีวิต 7 ราย ด้านจ.นครศรีธรรมราช มีสถานการณ์น้ำท่วมใน 8 อำเภอ ได้แก่ อำเภอชะอวด อำเภอหัวไทร อำเภอปากพนัง อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเชียรใหญ่ อำเภอพระพรหม อำเภอถ้ำพรรณรา และอำเภอเมืองนครศรีธรรมราช รวม 72 ตำบล 629 หมู่บ้าน 84 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 145,294 ครัวเรือน 460,270 คน ผู้เสียชีวิต 11 ราย และจ.ประจวบคีรีขันธ์ มีสถานการณ์น้ำท่วมใน8อำเภอ ได้แก่ อำเภอบางสะพาน อำเภอทับสะแก อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ อำเภอบางสะพานน้อย อำเภอกุยบุรี อำเภอสามร้อยยอด อำเภอหัวหิน และอำเภอปราณบุรี รวม 37 ตำบล 325 หมู่บ้าน 2 เทศบาล 25 ชุมชน ประชาชนได้รับผลกระทบ 30,810 ครัวเรือน 66,486 คน อพยพ 105 ครัวเรือน 320 คน ผู้เสียชีวิต 4 ราย ซึ่งสถานการณ์ภาพรวมในปัจจุบันระดับน้ำลดลงทุกจังหวัดแล้ว
"ในการติดตามสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า ในช่วงวันที่ 16-18 ม.ค.นี้ มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น และในช่วงวันที่ 19–20 มกราคม มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พักปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้นอีก ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยเฉพาะจังหวัดชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง พังงา ภูเก็ต สงขลา กระบี่ ตรัง ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังแรง ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร จึงได้ประสานจังหวัดและศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตในพื้นที่เสี่ยงภัย เตรียมรับมืออุทกภัยและดินถล่ม จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังสถานการณ์ในพื้นที่เสี่ยงภัยอย่างใกล้ชิด ประจำจุดเสี่ยงให้พร้อมปฏิบัติการเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้อย่างทันท่วงที"นายฉัตรชัยกล่าว