พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เปิดเผยในวันนี้เจ้าหน้าที่จะนำรถเครื่องขยายเสียงเข้าไปในวัดพระธรรมกายเพื่อประกาศให้พระภิกษุที่ไม่ใช่พระของวัดธรรมกายออกจากพื้นที่ โดยจะตรวจสอบหนังสือ ใบสุทธิ ของพระภิกษุ รวมไปถึงการตรวจสอบผู้ที่พักอยู่ในเต็นท์ที่พักประตู 5 และ 6 ตลอดจนภายในวัด ตามบัญชีรายชื่อศิษยานุศิษย์และบุคคลที่วัดได้มอบให้กับดีเอสไอไว้ก่อนหน้านี้ หากพบว่าไม่มีรายชื่อก็จะต้องออกจากพื้นที่วัดภายในเวลา 15.00 น. ของวันนี้เช่นกัน
เพื่อให้พระอยู่ภายในวัดธรรมกายเหลือเพียงพระของวัดพระธรรมกายเท่านั้น เช่นเดียวกับศิษย์ยานุศิษย์ และบุคคลอื่น หลังจากที่มีการอ้างว่าเจ้าหน้าที่ปิดกั้นไม่ให้บุคคลต่าง ๆ ออกจากวัดและมูลนิธิ และมีการดำเนินคดีผู้ที่ออกมาจากวัด จนทำให้ผู้สูงอายุ และผู้ป่วยที่อยู่ภายในวัดไม่กล้าเดินทางออกจากวัด นอกจากนี้ยังเพื่อให้การปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในการตรวจค้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งหากเมื่อครบกำหนดเวลายังไม่เดินทางออกจากพื้นที่จะถือว่าเป็นความผิด ตามคำสั่ง คสช. ซึ่งมีโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาทหรือทั้งจำและปรับ
พ.ต.อ.ไพสิฐ เปิดเผยว่า ในทางการข่าวยังไม่สามารถระบุได้ว่า พระธัมมชโยยังอยู่ภายในวัดพระธรรมกายหรือไม่ เนื่องจากภายในวัดพระธรรมกายมีพื้นที่ที่ซับซ้อน จึงจำเป็นต้องตรวจค้นให้แน่ชัดก่อน แต่มีการประสานชุดสืบสวน กับ เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง หรือตามแนวตะเข็บขายแดนในการติดตามหากพระธัมมชโย หลบหนีออกจากประเทศ
ส่วนข้อกังวลเรื่องการตัดน้ำตัดไฟ ภายในวัด พ.ต.อ.ไพสิฐ ระบุว่า เจ้าหน้าที่มีหลายมาตรการ จากเบาไปหาหนัก และในวันนี้ เจ้าหน้าที่ จะใช้เฮลิคอปเตอร์ในการขึ้นบินสำรวจพื้นที่วัดธรรมกายอีกครั้งหนึ่ง