พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะประธานกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นประธานมอบนโยบายทิศทางการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ภาคใต้ โดยระบุว่า การแก้ไขปัญหาพื้นที่ภาคใต้มีความก้าวหน้าตลอด 2 ปีที่ผ่านมา สามารถลดปัญหาความรุนแรงลงได้ และในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ทุกรัฐบาลได้พยายามแก้ไขปัญหามาโดยตลอด
ทั้งนี้ ในการกำหนดนโยบายการบริหารจะต้องทำควบคู่กับการพัฒนาที่ทำให้ประชาชนในพื้นที่เกิดความเข้าใจ รวมทั้งเรื่องการอยู่ร่วมกัน ด้านศาสนา และภาษา ซึ่งการแก้ไขปัญหาความรุนแรงนั้นเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจไม่ได้ต่อสู้กับผู้ที่เห็นต่าง แต่ต้องการทำเพื่อป้องกันความปลอดภัยให้กับประชาชนในพื้นที่กว่า 2 ล้านคนให้สามารถประกอบอาชีพได้ จึงอาจมีบ้างที่ทำให้เกิดความไม่เข้าใจในการทำงานของเจ้าหน้าที่
รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า รัฐบาลมีความจำเป็นต้องมีคณะกรรมการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนได้ร่วมบูรณาการการทำงานเพื่อลดความเหลื่อมล้ำและแก้ไขปัญหาในพื้นที่ให้เกิดความชัดเจนและตรงกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ เพื่อเป็นการลดความรุนแรงและลดความขัดแย้งให้ประชาชนเกิดความรู้สึกความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาด้วย
ส่วนการพัฒนาในพื้นที่ชายแดนใต้นั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ต้องการให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นในทุกด้าน ซึ่งรัฐบาลให้ความสนใจในการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ 3 เหลี่ยมเศรษฐกิจภาคใต้ และต้องพัฒนาต่อเนื่องให้เกิดความทัดเทียมประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่วางไว้ในปี 2560-2562 โดยให้การแก้ไขปัญหาภาคใต้เป็นวาระแห่งชาติ น้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน "เข้าใจ เข้าถึง และพัฒนา" และปรัญชาเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ รวมทั้งบูรณาการทุกหน่วยงานตามแผนงาน และงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้เกิดความสอดคล้องตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี