กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) สั่งการให้หน่วยงานในพื้นที่เสี่ยง 32 จังหวัด เตรียมความพร้อมป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนกอย่างเข้มข้น หลังพบการระบาดของโรคในประเทศเพื่อนบ้านและหลายประเทศทั่วโลก แนะผู้เดินทางไปประเทศที่มีการระบาดหลีกเลี่ยงสัมผัสสัตว์ปีกรวมทั้งนกธรรมชาติ หมั่นล้างมือบ่อยๆ ด้วยน้ำและสบู่ หากประชาชนพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ทันที
"จากกรณีที่มีรายงานข่าวการระบาดของเชื้อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ในประเทศมาเลเซียนั้น ในส่วนของประเทศไทยมีการดำเนินการเฝ้าระวังและป้องกันโรคไข้หวัดนกอย่างต่อเนื่องและสูงสุด โดยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งสาธารณสุข ปศุสัตว์ และฝ่ายปกครอง ถึงแม้ว่าจะไม่พบโรคนี้ในประเทศมานานหลายปีแล้วก็ตาม แต่ยังคงมีความเสี่ยงที่โรคนี้อาจกลับมาระบาดได้อีก เนื่องจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงและมีการเคลื่อนย้ายสัตว์ตามแนวชายแดนประเทศเพื่อนบ้าน" นพ.เจษฎา โชคดำรงสุข อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าว
สำหรับสถานการณ์ของโรคไข้หวัดนกสายพันธุ์ A (H5N1) ทั่วโลก จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลก ตั้งแต่ปี 2546 ถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2560 พบผู้ติดเชื้อทั้งสิ้น 856 ราย เสียชีวิต 452 ราย ใน 16 ประเทศ ส่วนในประเทศไทยมีรายงานพบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนก (H5N1) รายสุดท้ายในปี 2549 จากนั้นยังไม่พบผู้ป่วยโรคไข้หวัดนกเพิ่มอีก สำหรับสายพันธุ์อื่นๆ ที่พบในต่างประเทศตามที่ปรากฏในสื่อต่างๆ นั้นยังไม่เคยมีรายงานพบในประเทศไทยมาก่อน
นอกจากนี้ข้อมูลของกรมปศุสัตว์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 จากการเฝ้าระวังอาการเชิงรุกในสัตว์ปีกพบรายงานสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติในบางจังหวัด แต่ปัจจุบันไม่มีข้อมูลยืนยันพบเชื้อไข้หวัดนกในประเทศไทย
อธบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ประเทศไทยยังคงมีความเสี่ยงต่อการแพร่ระบาดของไข้หวัดนก ผ่านผู้เดินทางที่เดินทางมาจากพื้นที่ที่มีการระบาด ผ่านทางนกอพยพ และผ่านทางการเคลื่อนย้ายสัตว์ปีกทั้งบริเวณแนวชายแดนจากประเทศเพื่อนบ้านและภายในประเทศ เช่น ไก่ชน เป็ดไล่ทุ่ง เป็นต้น ซึ่งจากรายงานของกรมปศุสัตว์ เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2560 พบพื้นที่เสี่ยง 32 จังหวัด
ทั้งนี้ สธ.ได้สั่งการไปยังสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดในพื้นที่เสี่ยง 32 จังหวัด รวมถึงกรุงเทพมหานคร และหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรค เพื่อเตรียมความพร้อมป้องกันควบคุมโรคไข้หวัดนกอย่างเข้มข้นโดยมีมาตรการในการป้องกันและควบคุมโรค ดังนี้ 1.ติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังโรค ประสานงานกับเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ และกรมอุทยานฯ เพื่อเฝ้าระวังในสัตว์ปีกและนกธรรมชาติ หากพบการระบาดในสัตว์ ให้แจ้งเตือนโรงพยาบาลในพื้นที่เตรียมพร้อมดูแลผู้ป่วยทันที 2.จัดการฝึกซ้อมแผนเตรียมความพร้อมตอบโต้ภาวะฉุกเฉิน กรณีโรคไข้หวัดนก ระดับชาติ ปี 2560 3.อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) เฝ้าระวังหากพบสัตว์ปีกป่วยตายผิดปกติ ต้องรีบแจ้งเจ้าหน้าที่ ปศุสัตว์และเจ้าหน้าที่สาธารณสุข แจ้งเตือนประชาชนไม่นำสัตว์ปีกที่ป่วยตายมาชำแหละหรือรับประทาน หากพบผู้ป่วยสงสัยแนะนำพบแพทย์ทันที 4.ประชาสัมพันธ์การป้องกันโรคไข้หวัดนกให้ประชาชนทราบทั่วถึง และ 5.แจ้งเตือนบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุข ปฏิบัติตามแนวทางการคัดกรอง ดูแลรักษาผู้ป่วยโรคไข้หวัดนก ตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข
นอกจากนี้ กรมควบคุมโรคได้สั่งการให้ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศทุกแห่ง ดำเนินการร่วมกับด่านกักกันสัตว์ กรมปศุสัตว์ ตรวจเข้มเนื้อสัตว์ปีกและผลิตภัณฑ์จากสัตว์ปีกที่จะผ่านมาในประเทศไทย โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ หากประชาชนมีไข้ ไอ เจ็บคอ ปวดเมื่อยตามตัว หอบเหนื่อย และมีประวัติสัมผัสกับสัตว์ปีก ให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว