พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้ประเทศไทยเข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเต็มตัว รัฐบาลจึงขอให้ความมั่นใจแก่พี่น้องประชาชนว่าจะดูแลไม่ให้เกิดปัญหาขาดแคลนน้ำ โดยวางแผนบริหารจัดการน้ำอย่างต่อเนื่องและเป็นระบบ ตั้งแต่ฤดูแล้งจนถึงฤดูฝนปีที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 34 แห่ง อยู่ในเกณฑ์ดีมาก มีน้ำใช้การได้ในปีนี้ 21,019 ล้าน ลบ.ม. มากกว่าปีที่แล้ว 7,984 ล้าน ลบ.ม.
“ขณะเดียวกันกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้เปิดปฏิบัติการฝนหลวงประจำปี ตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. แบ่งการทำงานเป็น 2 ช่วง คือ เดือนมี.ค. – พ.ค. 60 เน้นบรรเทาปัญหาหมอกควันและไฟป่าในภาคเหนือ เพิ่มปริมาณน้ำในเขื่อน เช่น เขื่อนลำตะคอง เขื่อนลำพระเพลิง และบรรเทาปัญหาน้ำแล้งในพื้นที่การเกษตรบางแห่ง โดยเฉพาะบริเวณเหนือเขื่อน ส่วนเดือนมิ.ย. - ต.ค. 60 เน้นเติมน้ำต้นทุนในเขื่อนที่มีน้ำน้อย และ พื้นที่การเกษตรที่ฝนทิ้งช่วง โดยได้ตั้งศูนย์ปฏิบัติการ 5 ภูมิภาค ครอบคลุมทั่วประเทศ ได้แก่ จ.เชียงใหม่ พิษณุโลก นครสวรรค์ ลพบุรี บุรีรัมย์ อุดรธานี จันทบุรี ประจวบคีรีขันธ์ และสงขลา"
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันเริ่มพบว่าเกษตรกรเริ่มปลูกข้าวนาปรังในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งมากกว่าแผนที่วางไว้ จึงขอความร่วมมือพี่น้องเกษตรกรใช้น้ำอย่างเหมาะสมหรือปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อย แต่ได้ผลผลิตดีและสร้างรายได้มากกว่า ส่วนผู้ที่อาศัยอยู่ในเขตเมืองก็จำเป็นต้องใช้น้ำอย่างรู้คุณค่าเช่นกัน
“ท่านนายกฯ กำชับให้กระทรวงเกษตรฯ บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่สร้างความเข้าใจกับเกษตรกร โดยคาดว่าหากทุกฝ่ายร่วมมือกันใช้น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ จะมีปริมาณน้ำในเขื่อนใหญ่จนถึงช่วงเดือน พ.ค. มากกว่าแผนที่วางไว้ราว 700 ล้าน ลบ.ม. พร้อมทั้งดำเนินการตามแผนเตรียมความพร้อมเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยแล้งด้านการเกษตร ปี 2559/60 อย่างรอบคอบ ทั้ง 6 มาตรการ 29 โครงการ เช่น พัฒนาอาชีพเลี้ยงสัตว์แบบผสมผสาน ปลูกพืชปุ๋ยสด ขุดลอกปรับปรุงแหล่งน้ำ สำรองเมล็ดพันธุ์พืชไร่ ฯลฯ"โฆษกรัฐบาลกล่าว