นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ในฐานะประธานศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน(EOC) ด้านการแพทย์และสาธารณสุข กรณีหมอกควัน กล่าวว่า ผลการตรวจค่าฝุ่นละอองในอากาศจากกรมควบคุมมลพิษวันนี้พบค่าระหว่าง 38-176 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเกินมาตรฐานที่มีผลกระทบต่อสุขภาพใน 3 พื้นที่ คือ ต.บ้านดง อ.แม่เมาะ จ.ลำปาง , ต.นาจักร อ.เมือง จ.แพร่ และ ต.จองคำ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 26 กุมภาพันธ์ -13 มีนาคม 2560 มีรายงานพบผู้ป่วย 4 กลุ่มโรคใน 8 จังหวัดภาคเหนือ รวม 5,215 ราย ได้แก่ โรคหัวใจและหลอดเลือด 3,256 ราย โรคทางเดินหายใจ 1,640 ราย โรคตาอักเสบ 163 ราย และโรคผิวหนังอักเสบ 156 ราย ซึ่งลดลงจากในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา
นพ.สุวรรณชัย กล่าวว่า จากการติดตามสถานการณ์พบว่าแม้หมอกควันเริ่มเบาบางลง แต่ยังคงให้ศูนย์ปฏิบัติการฯระดับจังหวัดใน 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้แก่ เชียงราย เชียงใหม่ น่าน พะเยา แพร่ แม่ฮ่องสอน ลำปาง และลำพูน รวมทั้ง จ.ตาก เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์หมอกควันและผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน พร้อมทั้งการให้ความรู้แก่ประชาชน ให้ดูแลสุขภาพให้แข็งแรง แจกหน้ากากอนามัยกลุ่มเสี่ยง และการบริการประชาชน ต่อเนื่องไปจนถึงเดือนพฤษภาคม 2560 ซึ่งเป็นช่วงวิกฤตของปัญหาหมอกควัน
"หากมีค่าฝุ่นละอองในอากาศเกิน 120 ไมโครกรัม/ลูกบาศก์เมตร จะมีผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน โดยเฉพาะผู้ที่ป่วยโรคทางเดินหายใจ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคหอบหืด จะมีอาการผิดปกติที่อาจเกิดขึ้นได้ง่าย เช่น ระคายเคือง แสบตา แสบจมูก น้ำมูกไหล ไอ คอแห้ง เจ็บคอ หายใจลำบาก อึดอัดแน่นหน้าอก ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ขอความร่วมมือจากประชาชน ลดการเผาป่า เผาขยะ เพื่อลดหมอกควัน และช่วยลดการมีผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนได้ด้วย" นพ.สุวรรณชัย กล่าว