นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า จากสภาพความกดอากาศสูงจากประเทศจีนที่ปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือและประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ส่งผลให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีฝนลดลง สำหรับลมตะวันออกกำลังปานกลางพัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทย ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและอาจมีฝนตกบางแห่งในช่วงวันที่ 28-29 มีนาคม 2560
ทั้งนี้ จากการคาดหมายลักษณะอากาศดังกล่าว กรมฝนหลวงฯ ยังคงปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อช่วยบรรเทาปัญหาภัยแล้งและปัญหาหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนืออย่างต่อเนื่อง โดยจากการปฏิบัติการฝนหลวง ตั้งแต่วันที่ 3 มี.ค.- 28 มี.ค.60 ได้ขึ้นปฏิบัติการฝนหลวง 22 วัน จำนวน 389 เที่ยวบิน ปริมาณการใช้สารฝนหลวง 323.50 ตัน พลุซิลเวอร์ไอโอไดด์จำนวน 389 นัด ได้รับรายงานมีจังหวัดที่มีฝนตกรวม 42 จังหวัด และมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างสะสมรวม 62.53 ล้านลุกบาศก์เมตร
ส่วนภาคใต้จะประสบภาวะอากาศร้อนจัดและแห้งแล้งในช่วงเดือน มี.ค.-มิ.ย.ของทุกปี อาจทำให้เกิดการขาดแคลนน้ำเพื่อการอุปโภค-บริโภค น้ำเพื่อการเกษตร และเกิดอัคคีภัยไฟไหม้ป่าขึ้นโดยเฉพาะบริเวณป่าพรุโต๊ะแดง ป่าพรุบาเจาะ และพื้นที่ทางการเกษตร ซึ่งปัจจุบันป่าพรุโต๊ะแดงเป็นป่าผืนใหญ่แห่งเดียวของประเทศไทยที่ยังคงมีความสมบูรณ์ มีความหลากหลายทางชีวภาพ ทั้งป่าไม้ สัตว์นานาชนิด จึงได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ประสานความร่วมมือกับทางจังหวัดนราธิวาส ในการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเพิ่มปริมาณน้ำในพื้นที่เกษตร คืนความชุ่มชื้นให้ผืนป่า เติมน้ำให้เขื่อนเก็บกักน้ำ ป้องกันและแก้ไขภัยแล้งให้แก่เกษตรกร ประชาชน และผู้ใช้น้ำทั่วไป รวมทั้งพื้นที่ที่ประสบภัยพิบัติอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องอีกด้วย