พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี สั่งการให้หน่วยปฏิบัติ เช่น กระทรวงมหาดไทย กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองทัพ ฯลฯ ปรับวิธีการรวบรวมและรายงานข้อมูลการป้องกันและลดอุบัติเหตุช่วงเทศกาลสงกรานต์และเทศกาลอื่น ๆ แก่สาธารณชน โดยให้เน้นลงรายละเอียดให้ครบถ้วน จัดทำแบบฟอร์มสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุเปรียบเทียบกับสิ่งที่กฎหมายห้ามไว้ ไม่เน้นรายงานจำนวนการเกิดอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในปีนี้เทียบกับปีก่อน เพราะไม่มีผลต่อการป้องกันแก้ไขปัญหาแต่อย่างใด
“ท่านนายกฯ ย้ำว่า ต้องบอกให้ประชาชนรู้ถึงต้นเหตุของอุบัติเหตุแต่ละครั้งว่าเกิดจากอะไร เช่น เมื่อรถโดยสารสาธารณะประสบอุบัติเหตุ ผู้เสียชีวิตหรือผู้บาดเจ็บเป็นผู้ขับขี่หรือผู้โดยสาร คาดเข็มขัดนิรภัยหรือไม่ บรรทุกผู้โดยสารเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดหรือไม่ รถยนต์ส่วนบุคคล มีการคาดเข็มขัดนิรภัยหรือไม่ ผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บนั่งด้านหน้าหรือด้านหลัง ส่วนรถกระบะ มีการคาดเข็มขัดนิรภัยหรือไม่ ผู้เสียชีวิตหรือบาดเจ็บนั่งด้านหน้า บริเวณแคป หรือท้ายกระบะ เป็นต้น รวมทั้งบอกด้วยว่า เกิดจากสาเหตุเมาแล้วขับกี่ครั้ง ขับรถเร็วกี่ครั้ง ไม่สวมหมวกหรือเข็มขัดนิรภัยกี่ครั้ง โดยขอความร่วมมือไปยังมูลนิธิ องค์กร สถาบันการศึกษา และสำนักวิจัยต่าง ๆ ให้ร่วมกันรณรงค์ในลักษณะเดียวกันนี้ด้วย
ทุกฝ่ายจะต้องช่วยกันสร้างจิตสำนึกใหม่ให้แก่ประชาชนว่า ควรจะต้องปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการขับขี่รถอย่างไรเพื่อให้เกิดความปลอดภัย ไม่ใช่ให้ทราบเพียงตัวเลขที่เพิ่มขึ้นหรือลดลง เพราะเหตุการณ์ในวันนี้เกิดขึ้นไม่แตกต่างจากสิบปีก่อนที่มีแต่คนบาดเจ็บล้มตายวนเวียนอยู่เช่นเดิม และประเทศไทยยังติดอันดับ 2 ของโลกที่เกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุด หากเราไม่ช่วยกันแก้ไขก็ยากที่จะสำเร็จ"
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรียังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครองที่ประจำอยู่ที่จุดตรวจต่าง ๆ ทั่วประเทศ หมั่นสำรวจตรวจสอบทั้งรถ ผู้ขับขี่ และผู้โดยสารที่มีพฤติกรรมสุ่มเสี่ยงว่าจะเกิดอันตราย โดยต้องให้คำแนะนำตักเตือนเพื่อป้องกันอันตรายจากอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งนี้ จากข้อมูลในช่วง 7 วันอันตราย ระหว่างวันที่ 11 – 17 เม.ย.60 ผ่านไป 2 วัน พบว่า การเมาแล้วขับ เป็นสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุมากที่สุด รองลงมาคือ ขับรถเร็ว โดยยานพาหนะที่เกิดอุบัติเหตุสูงสุดคือ รถจักรยานยนต์ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ยังพบด้วยว่า ผู้ขับขี่ยังฝ่าฝืนไม่สวมหมวกกันน็อก ไม่คาดเข็มขัดนิรภัย ขับขี่รถโดยไม่มีใบอนุญาตเป็นจำนวนมาก