นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในวันที่ 21 เม.ย.นี้ จะเรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องการการแก้ไขปัญหาจราจร อาทิ กรมการขนส่งทางบก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มาหารือถึงแนวทางแก้ไขปัญหากรณีกฎหมายห้ามไม่ให้มีการนั่งโดยสารบริเวณกระบะท้าย
โดยประเด็นที่จะมีการหารือ คือการหาคำตอบว่าในช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลสงกรานต์ เจ้าหน้าที่ได้บังคับใช้กฎหมายในลักษณะว่ากล่าวตักเตือนเพียงใด ซึ่งอยากให้หน่วยงานประเมินว่าผลลัพธ์เป็นอย่างไร เพราะเท่าที่ทราบจากรายงานในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี แม้ว่าจำนวนผู้อุบัติเหตุและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บยังมีปริมาณมากอยู่ แต่สถิติผู้เสียชีวิตกลับลดลงอย่างน่าพอใจ ขณะที่การเสียชีวิตส่วนใหญ่มาจากการขับขี่รถจักรยานยนต์และไม่สวมหมวกนิรภัย ทำให้เห็นว่า ที่ผ่านมาเรารณรงค์เกี่ยวกับเรื่องนี้น้อยไป และการเน้นหนักเรื่องรถโดยสารสาธารณะก็เห็นว่าได้ผล ซึ่งต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ทำงานได้เป็นอย่างดี
"ในวันศุกร์นี้จะเป็นการพูดคุยเน้นไปที่เรื่องรถกระบะเป็นหลัก ส่วนกรณีรถจักรยานยนต์ที่มีสถิติการเสียชีวิตมากที่สุดอยู่ในวาระการพูดคุยที่อาจจะต้องนำมาหารือกันในครั้งต่อไป"
นายวิษณุ กล่าวว่า ถึงแม้ยอดผู้เสียชีวิตจะลดลงเหลือเพียง 5-10 คน รัฐบาลก็ยังไม่พอใจ เพราะเป็นเรื่องที่น่าเสียใจ จำเป็นต้องหาทางแก้ไข โดยกรณีนี้มีกฎหมายเกี่ยวข้องมีอยู่ 2 ฉบับ คือ กฎหมายของกรมการขนส่งทางบก ที่เน้นเรื่องความปลอดภัย ส่วนอีกฉบับเป็นกฎหมายจราจรเน้นเรื่องความสะดวก ซึ่งความปลอดภัยและความสะดวกต้องไปด้วยกัน
"ส่วนตัวคิดว่าอาจจะมีการออกกฎหมายหรือระเบียบที่ไม่ได้ยึดติดกับ พ.ร.บ.ฉบับใดฉบับหนึ่งที่เน้นเอาแต่มาตรการที่ดูว่าดีที่สุด มาบังคับใช้ให้เกิดความสงบและปลอดภัย แต่ขณะนี้ยังตอบไม่ได้ว่าจะทำอย่างไร เพราะต้องทำทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น การแก้ฎหมาย การออกหลักเกณฑ์เพิ่มเติม หรือการบังคับใช้อำนาจตามาตรา 44 ที่จะทำเมื่อฉุกเฉินจำเป็นเท่านั้น" นายวิษณุ กล่าว