นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฯ ได้ปรับแผนปฏิบัติภารกิจในการปฏิบัติการฝนหลวงทางภาคใต้มาปฏิบัติการช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่กำลังประสบปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่อการเพาะปลูกอย่างเร่งด่วน
ทั้งนี้ จากสภาพอากาศทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีความเหมาะสมที่จะปฏิบัติการฝนหลวง เนื่องจากลมตะวันตกและลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ไปจนถึงภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมีเกษตรกรขอรับบริการฝนหลวงในพื้นที่การเกษตรโดยเฉพาะพืชไร่ ซึ่งกำลังประสบปัญหาความแห้งแล้ง การขาดแคลนน้ำที่ใช้ในการเพาะปลูก
โดยกรมฯ ได้ปรับแผนการปฏิบัติภารกิจการทำฝน โดยจะย้ายเครื่องบิน CN จำนวน 1 ลำ จากศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงภาคใต้ ไปสนับสนุนภารกิจการปฏิบัติการฝนหลวงช่วยเหลือพื้นที่การเกษตรทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งการปรับแผนปฏิบัติภารกิจดังกล่าวสามารถเพิ่มประสิทธิภาพในการเติมน้ำในเขื่อนทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้
สำหรับการปฏิบัติการฝนหลวงทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือวันที่ 19 เม.ย.ที่ผ่านมา พบว่า มีฝนตกเล็กน้อยบริเวณพื้นที่อำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา มีฝนตกเล็กน้อยถึงปานกลางบริเวณ อำเภอหนองกุงศรี สหัสขันธ์ ท่าคันโท คำม่วง สามชัย และบริเวณลุ่มรับน้ำเขื่อนลำปาว จังหวัดกาฬสินธุ์ อำเภอกุดบาก ภูพาน นิคมน้ำอูน โพนนาแก้ว กุสุมาลย์ พรรณานิคม อำเภอเมืองสกลนคร และบริเวณลุ่มรับน้ำเขื่อนน้ำพุง เขื่อนน้ำอูน จังหวัดสกลนคร รวมถึงอำเภอศรีสงคราม นาหว้า ท่าอุเทน โพนสวรรค์ และอำเภอเมืองนครพนม จังหวัดนครพนม
"พื้นที่ที่ขอรับบริการฝนหลวงทั่วทุกภูมิภาค กรมฝนหลวงและการบินเกษตรยังคงปฏิบัติภารกิจช่วยเหลืออย่างต่อเนื่องเมื่อสภาพอากาศเอื้ออำนวย พร้อมทั้งเฝ้าติดตามสถานการณ์ในการปฏิบัติการฝนหลวงเพื่อเติมน้ำในเขื่อนและเพิ่มความชุ่มชื้นต่อไป" นายสุรสีห์ กล่าว