นายดอน ปรมัตถ์วินัย รมว.ต่างประเทศ กล่าวถึงกรณีนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา โทรศัพท์สายตรงคุยกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พร้อมเชิญให้นายกรัฐมนตรีไทยไปเยือนสหรัฐฯ เพื่อหารือปัญหาคาบสมุทรเกาหลีว่า ต้องพิจารณาจังหวะเวลาของทั้งสองฝ่าย และทางการไทยเองได้เชิญประธานาธิบดีสหรัฐฯ มาเยือนด้วยเช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ ในช่วงเดือน พ.ย.60 ประธานาธิบดีสหรัฐมีกำหนดเดินทางมาร่วมการประชุมการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกที่ประเทศฟิลิปปินส์ และการประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย–แปซิฟิก (เอเปค) ที่เวียดนาม คาดว่าภายหลังการประชุมคงได้เห็นแถลงการณ์ของอาเซียนต่อกรณีคาบสมุทรเกาหลีว่าอยากให้แต่ละฝ่ายผ่อนคลายท่าทีลง เพื่อหาทางเจรจากัน
ขณะที่อาเซียนเองคงยืนยันจะปฏิบัติตามมติขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เพราะไม่อยากให้คาบสมุทรเกาหลีเป็นเรื่องที่ต้องมีกองกำลัง หรือมีความเคลื่อนไหวทางการทหาร เนื่องจากกังวลว่าจะยิ่งตึงเครียดและยิ่งวุ่นวายกว่านี้ และหวังว่าเหตุการณ์นี้จะมีทางออก ซึ่งขณะนี้จีนและเกาหลีเหนือก็กำลังพยายามหาทางออกกันอยู่
ส่วนความกังวลว่าไทยจะถูกดึงเข้าไปร่วมเป็นคู่ขัดแย้งด้วยนั้น นายดอน กล่าวว่า เรื่องดังกล่าวยังคงอ่อนไหว จึงต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เพราะในอดีตเคยมีเหตุการณ์ลักษณะนี้ ซึ่งไทยเองยังคงยึดมติขององค์กสหประชาชาติ (ยูเอ็น)