พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติที่จะร่วมมือกับประเทศภาคีในการพัฒนาและปรับปรุงเส้นทางการเดินเรือในแม่น้ำล้านช้างและแม่น้ำโขง ความยาว 631 กม.เพื่อให้เป็นแม่น้ำที่เกิดประโยชน์ต่อประชาชนเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะการเดินเรือเพื่อขนส่งสินค้าว่า รัฐบาลจีนได้ร่วมกับทุกประเทศภาคี คือ พม่า ลาว และไทย ในการสำรวจเส้นทาง และพิจารณาผลดี-ผลเสียที่จะเกิดขึ้นจากการปรับปรุงเส้นทางลำน้ำโขงว่าจะมีผลกระทบอย่างไร
ในช่วงนี้ยังเป็นช่วงของการศึกษาผลกระทบ แต่กลับพบว่ามีกลุ่มนักอนุรักษ์ที่ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วย เนื่องจากเกรงว่าการปรับปรุงเส้นทางลำน้ำโขงดังกล่าวจะก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ดังนั้น รัฐบาลต้องการชี้แจงให้ทราบว่าในการปรับปรุงเส้นทางลำนำโขงนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อประโยชน์ในการขนส่งสินค้าทางเรือที่มีขนาด 500 ตันให้สามารถเดินเรือผ่านได้นั้นจะช่วยทำให้ไทยได้ประโยชน์อย่างมากในการขนส่งสินค้าทางเรือไปได้ถึงประเทศจีน แต่หากไม่มีการปรับปรุงพัฒนาลำน้ำโขง ก็จะทำให้แม่น้ำโขงตื้นเขินไปเรื่อยๆ และเกิดปัญหาด้านการเดินเรือเพื่อการขนส่งในอนาคต
อย่างไรก็ดี ขณะนี้เป็นเพียงแค่การสำรวจเพื่อวิเคราะห์ผลกระทบว่ามีผลดี ผลเสียอะไร แต่ยังไม่ได้ตัดสินใจจะดำเนินการ ดังนั้น จึงขอให้นักอนุรักษ์เปิดใจรับฟังข้อมูลก่อนที่จะคัดค้าน ซึ่งในท้ายสุดแล้วรัฐบาลจะดำเนินการหรือไม่นั้น ก็ต้องฟังเสียงจากประชาชนเป็นหลัก
"อยากให้เปิดใจฟังก่อนว่าจะมีผลดีผลเสียอะไร จะได้วิเคราะห์ ไม่ตกลงใจไปโดยไม่มีข้อมูล และที่ผ่านมา เรายังไม่เคยทำอะไรกับแม่น้ำโขงเลย แล้วถ้าดูวันนี้ แม่น้ำโขงตื้นเขินลงเรื่อยๆ โดยเฉพาะในช่วงบึงกาฬ ที่มีเกาะแก่งจำนวนมาก หากไม่ทำอะไรเลย จะเกิดปัญหา ฝากให้คิดและเปิดใจรับฟังข้อมูล สุดท้ายรัฐบาลจะตกลงใจทำหรือไม่ทำ ก็จะต้องฟังเสียงประชาชนอยู่ดี" พล.ท.สรรเสริญ ระบุ