นายทองเปลว กองจันทร์ รองอธิบดีกรมชลประทาน เปิดเผยว่า ภายหลังเกิดแผ่นดินไหวในพื้นที่ภาคเหนือ เมื่อเวลา 17.04 น. ของวันที่ 2 พ.ค. 60 มีจุดศูนย์กลางอยู่ที่บริเวณอ.แม่ลาว จ.เชียงราย วัดแรงสั่นสะเทือนได้ 3.1 ตามมาตราริกเตอร์ เจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยเขื่อนของกรมชลประทาน ได้ดำเนินการเข้าไปตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนขนาดใหญ่และขนาดกลางที่อยู่ในพื้นที่ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ ประกอบไปด้วยเขื่อนขนาดใหญ่ 2 แห่ง ได้แก่ เขื่อนแม่งัดสมบูรณ์ชล และเขื่อนแม่กวงอุดมธารา จ.เชียงใหม่ ส่วนเขื่อนขนาดกลาง ได้แก่ เขื่อนแม่สรวย และเขื่อนดอยงู จ.เชียงราย ,เขื่อนแม่แหลงหลวง เขื่อนแม่ทะลบหลวง เขื่อนห้วยแม่ออน เขื่อนแม่จอกหลวง และเขื่อนห้วยมะนาว จ.เชียงใหม่ ยังไม่พบความเสียหายในตัวเขื่อนที่อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุแผ่นดินไหวในครั้งนี้ โดยสภาพตัวเขื่อนทุกแห่งที่กล่าวมาข้างต้น ยังอยู่ในสภาพที่มั่นคง แข็งแรง และสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ เขื่อนทุกแห่งของกรมชลประทาน จะถูกออกแบบให้สามารถรองรับแรงสั่นสะเทือนจากแผ่นดินไหวได้สูงถึง 7 ตามมาตราริกเตอร์ ดังนั้น เหตุการณ์แผ่นดินไหวในครั้งนี้ จึงไม่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคง แข็งแรงของตัวเขื่อนแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตาม กรมชลประทาน ได้ดำเนินการตรวจสอบความมั่นคง แข็งแรงของตัวเขื่อนทุกแห่งที่อยู่ในความรับผิดชอบของกรมชลประทานอย่างสม่ำเสมอตลอดทั้งปี แม้ในยามปกติที่ไม่เกิดแผ่นดินไหวก็ตาม เพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ท้ายเขื่อน มีความมั่นใจและเชื่อมั่นในความปลอดภัยแข็งแรงของเขื่อนตลอดเวลา