น.ท.ฤทธิรงค์ ก้อนมณี รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บมจ. ท่าอากาศยานไทย (AOT) เปิดเผยว่า ตามที่มีผู้นำภาพการถ่ายทอดสดผ่านทาง Facebook Live ของชายผู้หนึ่งที่เข้าไปรอรับผู้โดยสารในพื้นที่หวงห้ามของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) เผยแพร่ทางสื่อออนไลน์ และได้มีการตั้งข้อสังเกตว่าบุคคลภายนอกที่ไม่ใช่ผู้โดยสารสามารถเข้าไปในพื้นที่เขตห้ามได้หรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ ทสภ. ขอชี้แจงว่า ตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยของ ทสภ. กำหนดให้ผู้ที่ผ่านเข้าไปในพื้นที่หวงห้าม จะต้องมีบัตรรักษาความปลอดภัยที่ ทสภ. ออกให้ และต้องผ่านเข้า-ออกตามช่องทางที่กำหนดเท่านั้น อีกทั้งต้องผ่านการตรวจค้นและปฏิบัติตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยตลอดเวลาที่อยู่ในพื้นที่หวงห้าม พร้อมทั้งให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย ทสภ.ที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วย ทั้งนี้ ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในพื้นที่หวงห้าม ได้แก่ พนักงาน/เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่ใน ทสภ., พนักงานของผู้ประกอบการร้านค้าในพื้นที่หวงห้าม, พนักงานสายการบิน, ผู้รับจ้าง และอื่นๆ ที่ ทสภ.อนุญาต ซึ่งต้องมีบัตรรักษาความปลอดภัยก่อนผ่านเข้าพื้นที่
น.ท.ฤทธิรงค์กล่าวว่า สำหรับกรณีนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 8 พ.ค.60 เวลาประมาณ 02.45 น. ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่าบุคคลดังกล่าวได้ใช้บัตรรักษาความปลอดภัยชนิดไม่มีภาพถ่ายของผู้ถือบัตร ที่ ทสภ. ออกให้กับหน่วยงานราชการแห่งหนึ่ง ซึ่งกำหนดให้ใช้ในภารกิจของหน่วยงานเท่านั้น ทั้งนี้ตามปกติการใช้บัตรประเภทดังกล่าวต้องมีเจ้าหน้าที่ของหน่วยงานนั้นที่ประจำอยู่ที่ ทสภ. เป็นผู้นำพาเข้าพื้นที่หวงห้าม ซึ่ง ทสภ. ได้มีหนังสือแจ้งให้หน่วยงานดังกล่าวทราบว่าได้มีการกระทำที่ไม่เหมาะสม รวมทั้งได้กำชับให้หน่วยงานกำกับดูแลเจ้าหน้าที่ที่รับผิดชอบไม่ให้มีการกระทำเช่นนี้อีก ทั้งนี้ทราบว่าหน่วยงานดังกล่าวได้ดำเนินการลงโทษเจ้าหน้าที่ที่กระทำความผิดแล้ว
"ทสภ. ขอยืนยันว่า ทสภ. ให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัยภายในท่าอากาศยานอย่างเคร่งครัดให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานสากล ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่หวงห้ามของท่าอากาศยานและเป็นไปตามระเบียบของ ทอท. ว่าด้วย การเข้าออกหรืออยู่ในพื้นที่เพื่อการรักษาความปลอดภัย พ.ศ.2560 ทสภ.จะยกเลิกการใช้บัตรรักษาความปลอดภัยดังกล่าว ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2560 เป็นต้นไป" น.ท.ฤทธิรงค์ กล่าว