นายนิตินัย ศิริสมรรถการ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บมจ.ท่าอากาศยานไทย (ทอท.) หรือ AOT กล่าวว่า ในช่วงเช้าที่ผ่านมา มีเที่ยวบินของสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ ที่ให้บริการ ณ ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) ล่าช้า 2 เที่ยวบิน ได้แก่ เที่ยวบิน SL 706 เส้นทางกรุงเทพฯ - หาดใหญ่ กำหนดเวลาออกเดิม 09.30 น.เลื่อนเป็นเวลา 11.00 น. และเที่ยวบิน SL 805 เส้นทางกรุงเทพฯ - เชียงใหม่ กำหนดเวลาออกเดิม 10.30 น. เลื่อนเป็นเวลา 11.00 น. ทั้งนี้ เป็นผลมาจากสภาพอากาศที่มีฝนตกหนักและขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของนักบิน ซึ่งขณะนี้การให้บริการกลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว
สำหรับกรณีที่มีการเผยแพร่ภาพน้ำท่วมขังบริเวณลานจอดใน ทดม.ขณะที่มีฝนตกหนักเมื่อช่วงเช้านั้น บริเวณดังกล่าวเป็นบริเวณหลุมจอดที่อยู่ระดับต่ำสุดที่ต่ำกว่าทางวิ่งอยู่ประมาณ 65 เซนติเมตร ซึ่งไม่ส่งผลกระทบต่อการขึ้น-ลงของอากาศยาน เนื่องจากเป็นเพียงน้ำท่วมบริเวณพื้นผิวประมาณ 10 เซนติเมตร โดย ทดม.ใช้ระยะเวลาในการระบายน้ำประมาณ 15-20 นาที นอกจากนั้น ในช่วงเวลาปกติที่ไม่มีฝนตก ทดม.ได้พร่องน้ำบางส่วนออกนอกท่าอากาศยานล่วงหน้า เพื่อให้เกิดพื้นที่ว่างในการรองรับปริมาณน้ำฝน ตลอดจนกำจัดเศษขยะและเศษสวะบริเวณท่อระบายน้ำ เพื่อให้การระบายน้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
นายนิตินัย กล่าวว่า ในช่วงปลายเดือนพ.ค.60 ซึ่งเป็นช่วงที่เข้าสู่ฤดูฝนอย่างเป็นทางการของประเทศไทยที่อาจทำให้ในบางช่วงเวลามีฝนตกหนัก และทำให้ปริมาณน้ำฝนมากจนเกิดเป็นน้ำท่วมขังภายในท่าอากาศยานดอนเมือง ซึ่งตามปกติ ทดม.สามารถรองรับปริมาณน้ำฝนได้ 80 มิลลิเมตรต่อชั่วโมง ในชั่วโมงแรกและชั่วโมงต่อไปประมาณชั่วโมงละ 12 มิลลิเมตร
ทั้งนี้ ทอท.ได้จัดทำแผนป้องกันน้ำท่วมภายในท่าอากาศยานไว้แล้ว ดังนี้
1.เตรียมความพร้อมของสถานีสูบระบายน้ำทั้งสถานีสูบน้ำของ ทดม.จำนวน 12 สถานี มีความสามารถระบายน้ำ 48,840 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง และกองทัพอากาศ (ทอ.) จำนวน 2 สถานี มีความสามารถในการสูบระบายน้ำ 26,500 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมง รวมอัตราระบายน้ำ 75,340 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงออกจาก ทดม.
โดยแบ่งพื้นที่การระบายน้ำเป็น 3 ทิศทาง คือ 1.ทิศเหนือ ระบายน้ำจากเขตการบิน (Airside) ผ่านระบบระบายน้ำขนานทางวิ่ง ระบายออกโดยโรงสูบน้ำลงสู่บ่อรับน้ำทางด้านเหนือ และระบายลงสู่คลองเปรมประชากรผ่านท่อลอดถนนวิภาวดีทางด้านเหนือ 2.ทิศตะวันออก ระบายน้ำด้านทิศตะวันออกของ ทดม.ลงสู่คลองถนน โดยใช้สถานีสูบน้ำ 11, 12, 13, 14 และโรงสูบน้ำ ทอ. 3.ทิศตะวันตก ระบายน้ำลงสู่คลองเปรมประชากร ผ่านสถานีสูบน้ำ 2 และ 5 และระบายลงสู่ลำรางระบายน้ำข้างถนนวิภาวดีรังสิตโดยใช้โรงสูบ 1 และ 2
2.ประสานงานกับการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ก่อสร้างท่อระบายน้ำความยาวทั้งสิ้น 900 เมตร จากสถานีสูบน้ำ เพื่อก่อสร้างระบบระบายน้ำเชื่อมต่อกับโครงการก่อสร้างรถไฟชานเมืองสายสีแดง เพื่อระบายน้ำลงสู่ระบบระบายน้ำลงคลองเปรมประชากร โดยได้ดำเนินการก่อสร้างเสร็จแล้วตั้งแต่เดือนก.ย.59 ซึ่งจะช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมขังบริเวณถนนกำแพงเพชร 6 และถนนเชิดวุฒากาศ
3.ประสานไปยังผู้ประกอบการร้านค้าภายในท่าอากาศยาน เพื่อขอความร่วมมือในการกำจัดขยะและเศษวัสดุอย่างระมัดระวัง
4.จัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังปริมาณน้ำฝน เพื่อคอยรายงานสถานการณ์ปริมาณน้ำฝนให้ทราบ และสามารถดำเนินการระบายน้ำได้ทันท่วงที ตลอดจนคอยกำจัดเศษวัสดุที่ไหลไปรวมกันบริเวณท่อระบายน้ำ
5.ประสานงานกับกรมอุตุนิยมวิทยาเพื่อคอยติดตามสถานการณ์สภาวะอากาศ และปริมาณน้ำฝน รวมทั้งประสานกับสำนักงานเขตดอนเมือง และกรมทางหลวง ในเรื่องการระบายน้ำเพื่อไม่ให้กระทบต่อชุมชนโดยรอบท่าอากาศยาน
"การดำเนินการดังกล่าว ทอท.ได้คำนึงถึงการบริหารจัดการการสูบระบายน้ำให้มีความสมดุล โดยไม่สูบระบายน้ำออกมากจนส่งผลกระทบแก่ชุมชนโดยรอบ และเพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อการให้บริการผู้โดยสารและเที่ยวบินของ ทดม." นายนิตินัย กล่าว