นายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวภายหลังลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรม ใน จ.พระนครศรีอยุธยา ว่า จากการติดตามสถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่เกษตรกรรมใน จ.พระนครศรีอยุธยา พบพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบประมาณ 33,000 ไร่ (26 พ.ค.60 –1 มิ.ย.60) ซึ่งขณะนี้กรมชลประทานได้ดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำช่วยเหลือใน 5 อำเภอ ได้แก่ อ.บางปะอิน อ.บางไทร อ.พระนครศรีอยุธยา อ.เสนา และ อ.บางบาล 12 จุด จำนวน 17 เครื่อง สามารถสูบช่วยเหลือไปแล้ว 20,000 ไร่ คงเหลือที่ต้องสูบ 13,000 ไร่ คาดว่าใช้เวลาอีกประมาณ 3-5 วัน จะเข้าสู่ภาวะปกติได้ หากไม่มีประมาณฝนตกในเขตพื้นที่เพิ่มเติม
นอกจากนี้ได้ติดตั้งเครื่องผลักดันน้ำบริเวณสะพานวัดสีกุกในแม่น้ำน้อย จำนวน 6 เครื่อง เครื่องผลักดันมีอัตรา 1.3 ลบ.ม./วินาที ซึ่งสามารถผลักดันน้ำให้ไหลลงสู่ทะเลได้เร็วขึ้นวันละประมาณ 617,000 ลบ.ม./วินาที รองรับน้ำที่จะสูบระบายจากพื้นที่เพาะปลูกของเกษตรกรได้เป็นอย่างดี
"ขณะนี้สถานการณ์น้ำภาพรวมยังปกติ แต่ในพื้นที่ จ.อยุธยา ได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนัก มีปริมาณน้ำฝนกว่า 200 มิลลิเมตร ทำให้เกิดน้ำท่วมขัง จากการบูรณาการทำงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สามารถลดพื้นที่น้ำท่วมขังลง เหลือประมาณ 10,000 กว่าไร่ โดยการนำเครื่องสูบน้ำเร่งสูบออกจากพื้นที่ท่วมขัง พร้อมทั้งสั่งการให้เจ้าหน้าที่ทั้งเกษตร ปศุสัตว์ และประมง ติดตามตรวจเยี่ยมเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบเพื่อช่วยเหลือได้ทันท่วงที ตลอดจนขอให้พี่น้องเกษตรกรมีความสบายใจ ขณะนี้กำลังเร่งระดมกำลังเพื่อให้สถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติได้โดยเร็ว" นายธีรภัทร กล่าว