พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) วันนี้เห็นชอบแผนแม่บทการจัดรูปที่ดิน พ.ศ. 2560–2579 ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอตามข้อกฎหมายที่กำหนดไว้ คือ มาตรา 17 ของพ.ร.บ.การจัดรูปที่ดินเพื่อการเกษตรปี 58 ที่ให้สำนักงานจัดรูปที่ดินกลางจัดทำแผนแม่บทเพื่อให้หน่วยงานต่างๆ นำเอารายละเอียดของแผนแม่บทไปวางแผนต่อในการปฏิบัติของแต่ละหน่วยงานเพื่อให้เกิดผลเป็นรูปธรรม
สำหรับการจัดรูปที่ดิน คือ การรวบรวมที่ดินที่อยู่ในแปลงใกล้เคียงกัน อาจจะมีการแลกการเปลี่ยนกันอย่างไรก็แล้วแต่ เพื่อให้แปลงที่ดินสามารถดำเนินการไปได้ จึงมียุทธศาสตร์ในการจัดรูปที่ดินอยู่ 3 ยุทธศาตร์ ประกอบด้วย 1.การขยายพื้นที่จัดระบบชลประทานในไร่นา 2.การรักษาพื้นที่ชลประทานเดิมที่มีการจัดระบบชลประทานเดิมให้มีประสิทธิภาพสูงสุด 3.การบูรณาการการมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต
ทั้ง 3 ยุทธศาสตร์ใช้เงินงบประมาณ 2 แสนล้านบาท เป็นแผนระยะยาว 20 ปี ตั้งแต่ปี 2560-2579 ซึ่งถ้าดำเนินการได้ครบตามเป้าหมายที่วางไว้ คือ สามารถพัฒนาโครงการได้ครบ 14.461 ล้านไร่ จะสามารถประหยัดน้ำได้ทั้งสิ้น 2 หมื่นกว่าล้านลูกบาศก์เมตร หรือประมาณ 900 กว่าลูกบาศก์เมตรต่อวัน เนื่องจากเดิมระบบชลประทานที่ทำเอาไว้มีลักษณะปล่อยให้น้ำท่วมในแปลงเกษตรจนล้นทะลักไปอีกแปลงหนึ่งเป็นทอดๆ แต่หลังจากนี้จะทำโครงสร้างพื้นฐาน จะวางท่อระบบชลประทาน ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดการสูญเสียน้ำ และประหยัดต้นทุนในการทำการเกษตรลงได้ 4 พันกว่าบาทต่อครัวเรือน และรายได้ที่เพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ยในทุกโครงการประมาณ 37,000 กว่าบาทต่อครัวเรือน
"นายกฯกำชับว่าแผนแม่บทจะไม่เกิดประสิทธิภาพถ้าหน่วยงานต่างๆไม่ได้นำเอารายละเอียดเหล่านี้ไปใช้และปฏิบัติ"พล.ท.สรรเสริญ กล่าว