พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวทางการจัดซื้อยาที่ผลิตในประเทศ ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเสนอ โดย 1.กำหนดให้การที่หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องต้องจัดซื้อยาเวชภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ผลิตได้เองในประเทศและผ่านการรับรองคุณภาพมาตรฐานจากหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องแล้ว เป็นนโยบายการจัดหาในภาครัฐ (Government Procurement) ที่สำคัญตามยุทธศาสตร์การเสริมสร้างศักยภาพทางเศรษฐกิจและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าและยุทธศาสตร์การพัฒนาคุณภาพชีวิต ตามนัยข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 โดยใช้กับยา เวชภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ เช่น รถพยาบาล อาหารทางการแพทย์ที่อยู่ในบัญชีนวัตกรรมไทยด้านการแพทย์และรัฐได้ให้สิทธิพิเศษแก่ผลิตภัณฑ์และบริการนวัตกรรมดังกล่าวตามที่ สวทช. ได้ตรวจสอบคุณสมบัติ และสำนักงบประมาณ (สงป.) ได้ประกาศขึ้นบัญชีวัตกรรมไทยแล้ว
2.ให้หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องพิจารณาดำเนินการตามข้อ 1 โดยวิธีกรณีพิเศษได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ของปริมาณความจำเป็นที่ต้องการใช้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
3. เมื่อพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มีผลบังคับใช้แล้ว (23 สิงหาคม 2560) โดยที่กฎหมายดังกล่าวไม่ได้ระบุถึงการจัดซื้อโดยวิธีกรณีพิเศษอีกต่อไป แต่มีการจัดซื้อโดยวิธีเฉพาะเจาะจง ซึ่งจะใช้กับเรื่องใดให้เป็นไปตามที่กฎกระทรวงกำหนด จึงให้กระทรวงการคลัง ดำเนินการออกกฎกระทรวงกำหนดให้ยาเวชภัณฑ์ และวัสดุอุปกรณ์ทางการแพทย์ตามข้อ 1 เป็นพัสดุที่รัฐต้องการส่งเสริมหรือสนับสนุน เพื่อให้หน่วยงานของรัฐสามารถจัดซื้อโดยวิธีเฉพาะเจาจงได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ตามข้อ 2 ในระหว่างนี้ให้กระทรวงการคลัง เตรียมการออกกฎกระทรวงเพื่อจะสามารถรับช่วงไปดำเนินการได้อย่างต่อเนื่องกับการมีผลใช้บังคับของพระราชบัญญัติฉบับใหม่
4. ให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) และกระทรวงการคลัง (กค.) ร่วมกันพิจารณาความเหมาะสมในการนำมาตรการดังกล่าวไปใช้กับการจัดซื้อยาตามบัญชียาหลักแห่งชาติที่ผลิตในประเทศและให้ สธ. กค. และสำนักงบประมาณ อำนวยความสะดวกและกำกับดูแลให้การดำเนินการตามนโยบายนี้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย โปร่งใส หากมีปัญหาหรือการละเว้นไม่ดำเนินการในเรื่องใด ให้รายงานนายกรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาสั่งการ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่อยู่ในบัญชีนวัตกรรมที่ผ่านการรับรองมาตรฐานแล้ว และห้ามชื้อผ่านทางผู้แทนจำหน่ายอย่างเด็ดขาด อีกทั้งในการจัดซื้อยา เวชภัณฑ์ และอุปกรณ์ทางการแพทย์ดังกล่าวให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องแยกวงเงินงบประมาณเพื่อการนี้ให้ชัดเจน โดยให้สำนักงบประมาณกำกับดูแลให้ถูกต้องต่อไป