พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) กล่าวถึงกรณีโจรสลัดปล้นน้ำมันจากเรือบรรทุกน้ำมัน C.P.41 สัญชาติไทยบริเวณน่านน้ำเมืองกวนตัน ประเทศมาเลเซียว่า กลุ่มโจรสลัดได้เข้าปล้นเรือลำดังกล่าวขณะบรรทุกน้ำมันดีเซล 1.5 ล้านลิตรจากสิงคโปร์มาส่งให้กับคลังน้ำมันของบริษัทเชลล์ใน จ.สงขลา โดยเกิดเหตุในน่านน้ำของมาเลเซีย
การกระทำดังกล่าวเป็นกลุ่มบุคคลที่นำเรือมาเทียบเรือน้ำมันที่โดนปล้น หลังจากนั้นก็ขึ้นไปก่อเหตุ ซึ่งเท่าที่ได้รับรายงานไม่มีการใช้ภาษาไทย แต่ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นกลุ่มชนชาติใด อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ลูกเรือไทยทั้ง 17 คนปลอดภัยแล้ว
"เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าโจรสลัดดังกล่าวเป็นบุคคลสัญชาติใด แต่ทราบว่าไม่ได้ใช้ภาษาไทยในการสื่อสาร ส่วนจะมีคนในรู้เห็นหรือมีคนไทยเข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ยังไม่สามารถตอบได้ ซึ่งต้องรอการสืบสวนสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง"พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าว
ขณะนี้ สตช.ประสานไปยังสำนักงานอัยการเพื่อตั้งคณะกรรมการตรวจสอบคดีดังกล่าว เพราะแม้ว่าจะเกิดเหตุในน่านน้ำมาเลเซ๊ย แต่เป็นการกระทำความผิดบนเรือไทย จึงสามารถใช้กฎหมายไทยในการดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการกระทำอันเป็นโจรสลัด พ.ศ.2534 ส่วนบริษัทเจ้าของเรืออยู่ระหว่างดำเนินการทางคดีและประกันภัยเพื่อประเมินมูลค่าความเสียหาย
พ.ต.อ.กฤษณะ กล่าวว่า ปัญหาโจรสลัดเกิดขึ้นในหลายประเทศแม้จะมีการเฝ้าระวัง อาทิ โซมาเลีย และ ช่องแคบมะละกา ทั้งนี้ สำหรับการป้องกันมีการดำเนินการในทุกระดับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจน้ำร่วมกับกองทัพเรือได้พยายามเข้าไปจัดทำฐานข้อมูลบุคคลกลุ่มเสี่ยงและมีการเฝ้าระมัดระวังมาตลอดอยู่แล้ว แต่กรณีนี้เกิดขึ้นในน่านน้ำมาเลเซีย ซึ่งอยู่นอกเหนือความรับผิดชอบของเจ้าหน้าที่ไทย